บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

สรุป Oppday HL: วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2567 และแผนธุรกิจปี 2568

สรุป Oppday Health Lead: วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2567 และแผนธุรกิจปี 2568

Health Lead มีบริษัทลูก 2 บริษัทคือ iCare Health ดูแลร้านขายยาทั้งหมดทุกแบรนด์ และ Healthy Net ผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อนำออกสู่ตลาด iCare Health มีร้านขายยา 4 แบรนด์ มีสินค้าหลากหลายครบครัน มีทั้งยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวชสำอาง และ Personal Care ต่างๆ Healthy Net ร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ในการคิดค้นพัฒนาสูตรสินค้าใหม่ๆ เพื่อมาขายทั้งใน iCare Health เอง และบริษัทอื่นๆภายนอก

ร้านขายยาของ iCare Health เน้นการมีของครบสำหรับลูกค้ากลุ่มที่รักสุขภาพ และคนที่เป็นผู้ป่วยที่ต้องมีการใช้ยา ซึ่งคนใช้ยามีอายุตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ร้านมีเภสัชกรอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ความรู้ตอบคำถาม

สินค้าในร้านแบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ๆ คือ ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, Personal Healthcare และเวชสำอาง, Home Healthcare (อุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งแบบใช้แล้วทิ้งและอุปกรณ์ขนาดใหญ่), และ Medical Food (อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วย)

iCare Health ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ มีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่การ Sourcing โดยเลือก Supplier ที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และอยู่ในธุรกิจมานาน ไม่ได้ดูแค่เลข อย. แต่เลือกสินค้าที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม มีการตรวจสอบ Supplier และสินค้าที่ส่งมาที่ DC ว่าได้ตามมาตรฐาน อย. วันหมดอายุยาวพอไหม มี Damage หรือไม่

DC มีมาตรฐานรองรับของ GPP ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ อย. ตั้งขึ้นมาสำหรับร้านยาที่มีคลังสินค้า iCare Health เป็นต้นแบบในการทำธุรกิจนี้มานาน เมื่อปีที่แล้วทางทีม อย. ได้นำทีมใหญ่เข้ามา Visit ที่ DC เพราะอยากดูว่า Practical จริงๆ แล้วเวลาทำงานจริงๆ กับมาตรฐานที่เขาออกมามันสมเหตุสมผลกันไหม เราเอามาเป็น Role Model เพื่อไปปรับปรุง Standard ของเขาด้วย

มีการบันทึกเอกสารทุกอย่างเพราะการเป็นร้านขายยาจะมี Regulatory ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการขายยาบางประเภทต่างๆ จะต้องมีการทำทะเบียนคุม มีเภสัชกรเซ็นรับรอง หรือไม่ก็การกำหนดวันหมดอายุ หรือตรวจเช็ควันหมดอายุ หรือวันหมดอายุทุกล็อตในระบบ ก็จะทำให้เราบริหาร Inventory ได้ง่าย แล้วก็ทำให้เราความเสี่ยงต่างๆ ก็น้อยลง

แบรนด์ร้านขายยามี iCare เปิดตามชุมชน, Pharmex เปิดในทำเลที่มีศักยภาพ, Super Drug เป็น Discount Drug Store เปิดในแหล่งที่มีลูกค้าเยอะและมีคู่แข่ง และ Vitamin Club เป็น Lifestyle Pharmacy เน้นวิตามินและเวชสำอางมากกว่ายา iCare มี 29 สาขา Pharmex มี 32 สาขา Vitamin Club ยังเหลือที่ Big C 1 สาขา Super Drug มีเพิ่มมาเมื่อปีที่แล้วที่ Macro จรัญสนิทวงศ์

iCare มีสาขาใหม่คือตลาดอีเลน ตรงศาลายา ที่เพิ่งเปิดไป อยู่หน้าตลาดเลย เป็น Stand Alone มีที่จอดรถค่อนข้างเยอะ พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ Pharmex มี The Walk ราชพฤกษ์ อยู่ตรงหัวมุมราชพฤกษ์ เป็น Community Mall ที่สร้างขึ้นมาใหม่ และ Macro จรัญสนิทวงศ์ Macro ที่มีอยู่มานานแล้ว เขารีโนเวทด้านหน้า ทำคนคานมาค่อนข้างสวย แล้วก็เด่น แล้วก็ให้พื้นที่ของเราค่อนข้างดี มีที่จอดรถอยู่ข้างหน้าด้วย โดยสรุปแล้วเราก็จะมีโมเดลที่เป็น Stand Alone ทั้งหมด 12 ที่แล้ว ในส่วนของ Shopping Mall และ Hypermarket ก็จะมี 11 ที่ ส่วนใหญ่เป็น Pharmex

iCare เข้าร่วมโครงการร้านยาคุณภาพของฉัน เพื่อเข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ สาขาใหม่ๆ ก็พยายามทำร้านยาคุณภาพตามเข้าไป ส่วนสาขาเก่าๆ เราทำได้ครบหมดแล้ว เราจะทยอยทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เรามี VAT Refund สำหรับ Tourist และโครงการ e-Receipt ของเดือน 1 ถึงเดือน 2 ที่ผ่านมาก็ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี E-Tax ทำให้เราได้ลูกค้าใหม่ค่อนข้างเยอะ จำนวน Member เพิ่มค่อนข้างเยอะ

CSR Program เรา Join กับบริษัท RX Group ซึ่งเรารับแผงยามาทำลายอย่างถูกวิธี แล้วก็นำไป Recycle โดยที่เรามีจุดรับ มีกล่องรับแผงฟอยด์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อของ RX อย่างเดียว รับทุกยี่ห้อเลย โครงการของสภากาชาดไทย เป็นโครงการเพื่อ Parkinson โดยจะเป็นการเล่นเกมในมือถือ เพื่อที่เกมนี้จะทำให้เราเข้าใจความ Frustrate ของคนที่เป็นโรค Parkinson เพื่อที่จะให้คนธรรมดาเข้าใจว่าเขาใช้ชีวิตได้ลำบากยังไง แล้วก็ได้รับเงิน ยิ่งคนเล่นเกมเยอะยิ่งได้เงินรับเงินบริจาคเยอะขึ้น ซึ่งรวมแล้วก็ประมาณ 100,000 บาท

Healthiness ก็เป็นอีกบริษัทลูกหนึ่งของเรา เราก็จะมีแบรนด์ Pharm ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของเรา แบรนด์ Besuto ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อแล้วก็สลายกลิ่น แล้วก็เรามีแบรนด์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวช่วงปีนี้ภายใน Q2 ก็จะเป็นเกี่ยวกับสมุนไพรที่เป็น Personal Care แล้วก็ Skin Care ต่างๆ

แบรนด์ Pharm ตอนนี้มี 33 SKU แล้ว Besuto เรามี 10 SKU แบรนด์ใหม่คาดว่าจะมี Product ค่อนข้างหลากหลาย ค่อนข้างครบ เป็น Personal Care มีตั้งแต่กันแดดจนถึงครีมบำรุงแชมพูอะไรอย่างนี้เลย

รางวัลที่เคยได้รับมา จะเป็นรางวัล Best Innovation ของ Besuto Travel Plus ก็คือตัว Hand Gel ที่เราขายช่วงโควิดค่อนข้างเยอะ แล้วก็รางวัล Business Excellence ตอนที่เราทำ IPO ได้รางวัลเป็น Outstanding Deal Besuto Travel ได้รางวัลจาก Canada แล้วก็ได้รางวัลเหรียญเงิน ในส่วนของ Pharm เราก็ส่งไปชิงรางวัลหลายที่ โดย Pharm สูตร Boost ก็จะเป็นจากญี่ปุ่น แล้วก็ Vision เนี่ยก็จะเป็นจาก Geneva แล้วก็ตัว Move ก็จะเป็นรางวัลจากญี่ปุ่นเหมือนกัน แล้วก็ตัวใหม่ของเราก็มี มีสักพักแล้วล่ะครับ ก็จะเป็นของ Kiri ก็คือรางวัลเหรียญทองเลยจากญี่ปุ่น

แบรนด์ Pharm เรามีการส่งไปเพื่อรับรางวัลหลายที่ โดยแบรนด์ Pharm ตัวชุด Series ใหม่ของเราที่เป็น Series Bio Enhance ซึ่งออกเมื่อ Q4 ปีที่แล้ว ก็มีส่งไปชิงรางวัลที่ฝรั่งเศส ได้รางวัลมาหลายอย่างเหมือนกัน ทั้งเหรียญทอง ทั้งรางวัลพิเศษต่างๆ ตอนนี้มีทั้งหมด 4 สูตร ก็จะเป็น Bio Enhance C แล้วก็ Calcium แล้วก็ตัววิตามิน B แล้วก็ตัววิตามินรวม

การใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสุขภาพมีการเพิ่มขึ้นตลอด โดยเฉพาะช่วงโควิดที่ผ่านมา หลังโควิดลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าก่อนหน้าโควิด ยอดขายของร้านยาตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 43,000 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของตลาดรวม เมื่อคนไทยนึกถึงช่องทางต่างๆ ส่วนใหญ่จะนึกถึงร้านยาเป็นหลักก่อน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ประมาณ 34.7% นึกถึงร้านยาเป็นอันดับแรก

ช่วงปี 2019 มีเรื่องของ GPP ที่เข้มงวด จำนวนร้านยาเพิ่มขึ้นมีการปิดตัวลงเยอะ ปี 2023 ก็มีร้านยาปิดตัวลงช่วงหนึ่ง ในปัจจุบัน กรุงเทพฯ ปิดตัวลง แต่ต่างจังหวัดเปิดค่อนข้างเยอะกว่า ในกรุงเทพฯ ตอนนี้มีประมาณ 3,429 สาขา จากช่วงพีคๆ 5,000 กว่าแห่ง ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรร้อยละ 20 อายุเกิน 60 ปี ทำให้ความต้องการในการใช้ยาและอุปกรณ์การแพทย์เยอะขึ้น

ปีนี้ตั้งเป้าเปิดทั้งหมด 14 สาขา Healthiness ปีนี้จะมี Series ที่เป็น Q จะมีเปิดตัวประมาณ 10 กว่า SKU ช่วงประมาณ Q2-Q3 ตั้งแต่เรื่องของการเปิดสาขา ตอนนี้ที่เริ่มเปิดไปแล้วเตรียมจะเปิดจะเป็นบางจากแจ้งวัฒนะ Q นี้จะมี 1 สาขา การเปิดตัวแบรนด์ใน Series Q จะมีเปิดตัว 2 ตัวก่อนใน Q1 แล้วใน Q2 จะมีการเปิดสาขา รวมถึงการเปิดตัว Series Q ประมาณอีกประมาณ 10 กว่ารายการ ก็อันนี้คือเป็นตามแผนเลย ก็คือจะมีไล่เปิดไปเรื่อยๆ จนครบทั้งหมด 14 สาขา

สัดส่วนยอดขาย Retail เป็นหลัก ปัจจุบันอยู่ที่ 99.06% เป็น Retail performance ของตอน Q4 รายได้รวม 538.9 ล้านบาท เติบโต 19.59% รายได้อื่นๆ 12.39 ล้านบาท เติบโต 48.42% Net Profit 31.19 ล้านบาท เติบโต 5% Gross Margin 25.66% เติบโต 21.67% EBITDA 11.5 เติบโต 11.65% Net Margin 5.79% เติบโต 5%

รายได้รวมทั้งปี 2,017 ล้านบาท เติบโต 21.61% รายได้อื่นๆ 40.8 ล้านบาท เติบโต 71.67% (มีรายได้จากการขายขาดทุนด้วยประมาณ 6 ล้านกว่า) Net Profit 78 ล้านบาท เติบโต 4.8% Gross Margin 23.51% เติบโต 23.21% EBITDA 9.27% เติบโต 17.6% Net Margin 3.88% เติบโต 4.8% ค่าใช้จ่าย EBITDA จะเยอะกว่า Net Margin เพราะมีเรื่องของค่าเสื่อม

ค่าใช้จ่ายใน Q4 ค่าใช้จ่าย Administration Cost หรือค่าคน ค่าเช่า 17.08% เติบโต 36.54% ค่าบริหารจัดการ 3.88% เติบโต 25.92% ค่าใช้จ่ายภาพรวมทั้งปี Administration Cost 16.44% เติบโต 41.05% (เท่ากับสัดส่วนการเปิดร้านปีที่แล้วเลย) ค่าบริหารจัดการ 4.21% เติบโต 11.12%

Equity Ratio ไม่ได้ต่างกันมาก Debt to Equity Ratio 0.49 Return of Asset (ROA) 5.43 ใน Q4 ใกล้เคียงกัน Return of Equity (ROE) ที่ 7.93 อีบิท Margin 7.15 ใน Q4 EBITDA 11.5 Inventory Day ดีขึ้นอยู่ที่ 62.17 Account Payable Day 38.98

Sale Same Store Growth เป็นบวกต่อกัน 5 Quarter แล้ว สำหรับ Quarter นี้อยู่ที่ 6.1% Sale per Ticket พอเปิดสาขาก็คือสาขาใหม่ก็คือต้องค่อยๆ สร้างยอดขึ้นมา ตอนนี้มี Effect น้อยมาก จาก Q3 458 ตอนนี้ Q4 ก็ 450 แทบไม่ต่างกันเลย Ticket ต่อวันตอนนี้ขึ้นไปถึง 12,394 Ticket ต่อวันแล้ว

โดยรวมแล้ว Health Lead มีผลประกอบการเติบโตขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะในส่วนของรายได้รวมและรายได้จาก Personal Healthcare นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): นาทีที่ 44.29

1. เป้าหมายการคุมต้นทุนการจัดจำหน่าย:
   • หลังจากการขยายสาขาลดลง คาดว่าจะคุมต้นทุนการจัดจำหน่ายให้ได้เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้?
   • คาดว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ประมาณ 30 กว่าๆ ก็คือมันจะลดลงตามสัดส่วนของร้านที่เปิดขึ้นของปีที่แล้ว
2. เป้าหมาย Gross Profit:
   • เป้าหมาย Gross Profit ของปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่กี่เปอร์เซ็นต์ และในระยะยาวตั้งเป้าของ Gross Profit Margin ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์?
   • จริง Gross มันขยับขึ้นเรื่อยๆ จะไปเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ตั้งเป้าว่าเราจะพยายามทำให้ตัวเลขมันเป็นบวกขึ้นเรื่อยๆ
3. แผนการขยายสาขาใน 2-3 ปีข้างหน้า:
   • ในวางแผนขยายสาขาเท่าไหร่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า?
   • เราจะเปิดประมาณ 14 สาขา แล้วเราก็ตั้งเป้ายอดการเติบโตที่ไม่ต่างจากเดิมประมาณ 20%
4. กลยุทธ์ในการเลือกพื้นที่ทำเลและการใช้ Data:
   • กลยุทธ์ในการเลือกพื้นที่ทำเล มีการใช้ Data เข้ามาวิเคราะห์ยังไงบ้าง?
   • ข้อมูลจะบอกว่าลูกค้าอยู่ตรงไหน อย่างที่บอกว่ามันก็มีบางพื้นที่ที่มีลูกค้าเราอยู่เยอะ มีกำลังซื้อดีมาก แต่ว่าเรายังไม่มีร้านอยู่
5. เหตุผลในการลดการขยายสาขา:
   • ทำไมบริษัทถึงลดการขยายสาขาลง?
   • อาจจะไม่ใช่ลด แต่จำนวนการเปิดเท่าเดิม เพียงแต่ว่าถ้าเทียบเป็นอัตราส่วนกับร้านเดิมเนี่ยมันจะดู