บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

สรุป Oppday BANPU: วางแผนสู่ปีแห่ง Execution, โฟกัสธุรกิจหลัก, คว้าโอกาส New Energy
P/E -100.00 YIELD 7.01 ราคา 4.28 (1.90%)
สรุป Oppday บ้านปู: วางแผนสู่ปีแห่ง Execution, โฟกัสธุรกิจหลัก, คว้าโอกาส New Energy
สวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่านครับ วันนี้ผมและทีมผู้บริหารบ้านปูมีความยินดีที่จะนำเสนอผลประกอบการประจำปี 2024 และทิศทางของบริษัทในปี 2025 ที่จะเป็นปีแห่งการลงมือทำ (Execution Year) หลังจากที่เราได้วางแผนและปรับโฟกัสธุรกิจในช่วงปีที่ผ่านมา
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในปี 2024 ที่ผ่านมา ธุรกิจของบ้านปูได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยสรุปได้ดังนี้:
- ปัจจัยภายนอก:
- Demand พลังงานที่เพิ่มขึ้น: ความต้องการพลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจพลังงานโดยรวม
- AI และ Digital Infrastructure: การเติบโตของ AI และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น Data Center สร้างโอกาสในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
- นโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ: นโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะการส่งเสริมการส่งออก LNG (Liquefied Natural Gas) ทำให้พลังงานมีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้นทั่วโลก
- COP28 และ Decarbonization: แม้ว่าจะมีนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกตะวันตก แต่กระแสการลดคาร์บอนยังคงเป็นเทรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในเอเชีย
- ปัจจัยภายใน:
- การวางแผนและปรับโฟกัสธุรกิจ: การปรับโครงสร้างธุรกิจและการวางแผนกลยุทธ์ใหม่ ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการคว้าโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
- การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ: การดำเนินงาน (Operation Excellence) ช่วยลดต้นทุนในด้านต่างๆ เช่น การทำเหมือง, ก๊าซ, และพลังงาน ทำให้บริษัทสามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
- การปรับโครงสร้างเงินทุน: การเพิ่มทุน (Equity) และลดหนี้ (Debt) ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้น
- การปรับพอร์ตการลงทุน: การขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-Core Assets) และนำเงินทุนกลับมาลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูงกว่า เช่น แบตเตอรี่และก๊าซในสหรัฐฯ
จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ในปี 2024 บ้านปูมีรายได้รวม 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าตัวเลขจะต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บ้านปูมองเห็นโอกาสทางธุรกิจมากมาย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยมีกลยุทธ์และแผนการดำเนินการดังนี้:
- Energy Symbiosis: การสร้างสมดุลระหว่างพลังงานดั้งเดิม (ก๊าซ, ถ่านหิน) และพลังงานใหม่ (Renewables Plus) รวมถึงแร่ธาตุอื่นๆ ในอนาคต
- Decarbonization: การลงทุนในเทคโนโลยีและโครงการที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน เช่น Gas Power CCS และ Renewable Plus
- Next-Gen Mining: การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้ในการทำเหมือง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
- BKV: การขยายธุรกิจพลังงานในสหรัฐฯ โดยเฉพาะการผลิตก๊าซและการดักจับคาร์บอน
- Banpu Power: การเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและก๊าซ
- Banpu Next: การพัฒนาธุรกิจ Energy Solution เช่น Solar Rooftop, Floating, Energy Efficiency, E-Mobility และ Battery Manufacturing
บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่ม EBITDA เป็น 1.5 เท่า (มากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในปี 2030 และเพิ่มสัดส่วนของ Non-Correlated Business ให้มากกว่า 50%
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
บ้านปูตระหนักถึงความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึง:
- ความผันผวนของราคาพลังงาน: ราคาก๊าซและถ่านหินมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัท
- การแข่งขัน: การแข่งขันในตลาดพลังงานมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและ Energy Solution
- ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ: การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาล อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอน
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บ้านปูมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ดังนี้:
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน: ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการจัดการ
- การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน: ใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ เช่น การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Hedging) เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาพลังงาน
- การปรับพอร์ตการลงทุน: ลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำและมีศักยภาพในการเติบโตสูง
- การติดตามและปรับตัว: ติดตามการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและนโยบายอย่างใกล้ชิด และปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
ในอนาคต บ้านปูมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจพลังงาน โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียนและ Energy Solution บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้าน Energy Solution ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
- ITM: ตั้งเป้าลดต้นทุนการผลิตที่เหมือง ITM อีก 1.5 ดอลลาร์ต่อตัน
- Australia: เพิ่มสัดส่วน Domestic ในการขายถ่านหินให้มากขึ้น
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 55:41]
-
โครงการท่อส่งก๊าซ CCS
คำถาม: ความคืบหน้าโครงการท่อส่งก๊าซ CCS และ Incentive จากภาครัฐ 45Q เป็นอย่างไร?
คำตอบ: ขณะนี้มี 3 โครงการ และ Incentive 45Q ยังคงอยู่ที่ 85 เหรียญต่อตัน ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงและคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
-
นโยบาย Trump และ BKV
คำถาม: นโยบายของ Trump จะส่งผลบวกหรือลบต่อ BKV?
คำตอบ: โดยรวมมองว่าเป็นบวก เพราะ Demand พลังงานที่สูงขึ้นทำให้ผลิตก๊าซได้มากขึ้น และราคาขึ้นด้วย รวมถึง Power และ CCS เป็นภาพเสริมให้ Data Center ในอเมริกา
-
การซื้อหุ้นคืน vs. ลงทุนใหม่
คำถาม: Price to Book Value ของบริษัทต่ำมาก การซื้อหุ้นคืนจะสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นได้มากกว่าหรือไม่?
คำตอบ: การซื้อหุ้นคืนเป็น Short Term ช่วยได้ในระยะสั้น แต่ในเชิง Capital Allocation มองว่าการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่มี Upside และ Low Carbon จะสร้าง Value ระยะยาวได้มากกว่า
-
เป้าหมาย CCS ภายในปี 2030
คำถาม: Caex Gas Power CCS ที่ 60% ภายในปี 2030 จะสอดคล้องกับ EBITDA Contribution ได้ไหม?
คำตอบ: Next Gen Mining Gas และ Renewables จะเป็นส่วนที่สร้างกระแสเงินสดและ Scale ได้ดี และ Caex ที่ลงทุนใน Gas Power CCS เพราะเห็นโอกาสใน BKV และบ้านปู Power ในการ Take Upside เรื่อง Data Center ทั้งใน US และเอเชีย
-
ปัจจัยเสี่ยงต่อ EPS Growth
คำถาม: ในปีนี้บริษัทมองว่าปัจจัยเสี่ยงอะไรที่จะทำให้ EPS ไม่เติบโต?
คำตอบ: Portfolio ของบ้านปูแบ่งเป็น 2 อย่างคือ Commodity และ Platform Business (PPA Style) ต้อง Balance 2 Business นี้ให้ดี ความ Attractive ของ Portfolio คือธุรกิจที่มี Cash Flow ที่ดี มีทั้ง PPA Business ที่ Revenue Stable และ Commodity ที่มี Upside หากมี Downside ก็ต้อง Manage ให้ได้
-
เหมือง ITM ในอินโดนีเซีย
คำถาม: อยากให้ ITM ลดต้นทุนให้ได้ 1.5 เหรียญต่อตัน เป้าหมายนี้จะทำได้จริงหรือไม่
คำตอบ: เป้าหมายเป็นไปได้และตั้งเป้าจะลดต้นทุนเพิ่ม 1.5 เหรียญต่อตันให้ได้
-
สรุปการดําเนินงานด้านเหมือง
คำถาม: สามารถสรุปภาพรวมการดําเนินงานด้านเหมืองได้อย่างไร
คำตอบ: ในปีที่ผ่านมาสามารถลดต้นทุนต่อตันได้สําเร็จตามเป้าหมาย แม้ว่าราคาถ่านหินจะปรับตัวลดลง
โดยสรุปแล้ว บ้านปูกำลังมุ่งหน้าสู่ปีแห่งการลงมือทำ (Execution) โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, ปรับพอร์ตการลงทุน, และคว้าโอกาสในธุรกิจพลังงานใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว