PTG ก้าวสู่ยุคใหม่ New S- Curve หมดกังวลราคาน้ำมัน ถอดรหัสงานเยี่ยมชมกิจการ

วันที่ 30 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 ณ. สำนักงานใหญ่ PTG ชั้น 45 ตึก CW TOWER

ต้มยำกุ้ง 2540 ปั้มน้ำมันตัวเล็กใกล้เจ๊งใช้หนี้นานกว่า 10 ปี กลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันนี้มียอดขายมากถึง 179,000 ล้านบาท ต่อปี ปรบปีมือสิครับ :D การได้เข้าไปสัมผัสตัวตนของผู้บริหารอย่างคุณ คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ คุณรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเกียรติเป็นอย่างมากสำหรับเรา

วันนี้ธุรกิจของบริษัทดำเนินไปได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ผิดกับภาพของราคาหุ้นที่ทำตัวไม่น่ารัก เป็นผลมาจากความกังวลใจของกำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเหตุการณ์ COVID-19


กำไรกดดันราคาหุ้น นักลงทุนหมดหวัง

เป็นอันเข้าใจตรงกันว่ารายได้ของบริษัทเติบโตต่อเนื่องมาจากยอดขายน้ำมันเป็นหลัก ที่มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเหตุจากการเข้าไปกินส่วนแบ่งตลาดสำคัญ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 แต่ภาพของกำไรดูขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงส่งผลให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ ดั่งภาพของราคาหุ้นในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา สังเกตุได้ว่าปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อกำไรคือ “ค่าการตลาด” โดยเฉพาะในส่วนของน้ำมันดีเซลที่ลดลงไปอยู่ในระดับ 1.40 บาทต่อลิตร ช่วงนั้นราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดประมาณ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (1 บาร์เรล ประมาณ 160 ลิตร) ส่งผลให้ทางรัฐบาลมีการขอตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ผลที่ตามมาทำให้บริษัทกำไรลดลงอย่งมากและขาดทุนในช่วงปลายปี 2564 และ ปลายปี 2565










ราคาน้ำมันดิบลดลง กองทุนน้ำมันขาดทุนลดลง

ในขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 73.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มีแนวโน้มคงที่ส่งผลให้ปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยที่ 2 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่เป็นมิตรกับกำไรของบริษัท นักวิเคราะห์มองไปในทิศทางเดียวกันว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีโอกาสกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า โดยฐานะกองทุนน้ำมันสิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. 2566 ขาดทุนอยู่ 63,376 ล้านบาท

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการพิจารณาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หลังจากนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการ ปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่มีอำนาจเต็ม จะทำอะไรก็ต้องส่งหนังสือขออนุญาต กกต. ประกอบกับ การยกเลิกเก็บภาษีเป็นเงิน 5 บาท ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 ผ่านมาแล้ว 7 ครั้ง ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้แล้วกว่า 158,000 ล้านบาท จึงต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจ เพราะจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของภาครัฐ







ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tcc.or.th/structure-oil-price/

ลืมครับ ! จงลืม !! เรื่อง ราคาน้ำมันดิบ ปี 2570 กำไรขั้นต้นจะมีสัดส่วนเพียง 50% เท่านั้น

บริษัทที่ผ่านวิกฤติปี 2540 กลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่ง มีการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของกิจการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และ มองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา อัพเดท 8 ธุรกิจสำคัญล่าสุดประกอบไปด้วย 



1. พลังงาน (Energy) เป็นธุรกิจหลักขายปลีกน้ำมัน และ แก๊ส เป้าปี 2570 มีสาขารวม 2,406 สาขาจากปัจจุบัน 2,100 สาขา 
โดยใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างอย่างเด่นชัด ด้วยการพัฒนาบุคคลากรที่ถูกเรียกว่า PT SERVICE MASTER ยกระดับการให้บริการขั้นสุด ที่จะช่วยสร้างภาพจำความเป็นเลิศให้กับผู้ใช้บริการ ณ หัวจ่ายน้ำมัน 



LPG Auto ปัจจุบันกินส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 วางเป้าขยายต่อเนื่องตามปั้มน้ำมัน ในขณะที่ส่วนของ LPG ขายตามบ้านมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่แหล่งร้านค้าร้านอาหารเป็นสำคัญ

สถานีชาร์จไฟฟ้าส่วนนี้ มีเฉพาะพื้นที่เดินทางสำคัญเท่านั้น บริษัทเห็นความสำคัญแต่ยังไม่่ใช่ลำดับแรกที่ต้องทำ เมื่อผู้เล่นทุกคนหันมาทำสุดท้ายความจะไม่มีอะไรแตกต่าง ปัจจุบันการสร้างความแตกต่างในงานบริการจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและเร่งด่วนในการพัฒนาธุรกิจ





ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://crmpartner.pt.co.th/maxplus


บัตร MAX CARD ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 19 ล้านคน และ ในจำนวนนั้นคือผู้ที่จ่ายเงิน 599 เพื่อใช้บัตร MAX CARD PLUS เกิดการซื้อซ้ำ รับส่วนลด สะสมแต้มอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม Life Stlye ของคนเมืองและต่างจังหวัด จากข้อมูลการใช้งานของลูกค้าส่งผลให้อนาคตบริษัทจะสามารถมอบประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างแม่นยำทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง และ พาร์ทเนอร์ที่เป็นส่วนธุริกจสนับสนุน New S- Curve ในอนาคต

2. ค้าปลีก (Retail) ร้านค้าหลักคือ MAX MART มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Q1/66 เติบโต 51.3%YoY และ 6.5%QoQ ที่สำคัญคือ สามารถรักษาอัตรากำไรได้ดีอย่างตอนเนื่อง ปัจจุบันมีสาขารวมแล้วทั้งหมด 318 สาขา ในปี 2570 มองเป้าสาขาไว้ที่ 577 สาขา

3. อาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage) ที่เราคุ้นมากสุดปัจจุบันคือ กาแฟพันธุ์ไทย เน้นนักเดินทาง และ อดีตที่คุ้นเคย Coffee World เน้นห้างเป็นหลัก ปัจจุบันพันธุ์ไทยมีสาขาแล้ว 511 สาขา โดยวางเป้าใกล้ปีนี้ 1,523 สาขา นับจาก กรกฏาคมนี้ เหลือเวลาอีก 6 เดือนเท่านั้น และ ส่วนใหญ่เป็นสาขาแฟรนไชส์ ผู้บริหารให้ความมั่นใจมากว่าทำได้

ในความเห็นส่วนตัวมองว่าการก่อสร้างไม่น่ามีปัญหา แต่พื้นที่คุณภาพ คนทำงาน และ นโยบายรัฐ จะสร้างปัญหามากน้อยแค่ไหนตรงนี้ยังมีความกังวลใจ แต่เชื่อว่าด้วยวิกฤติที่ผ่านมาบริษัทพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา 

เป้าไกล มองสาขาปี 2570 ไว้ที่ 5,138 สาขา เห็นตัวเลขนี้ผมแทบจะลมจับ ตัวเลขจากปัจจุบันห่างกันถึง 10 เท่า ถ้าเป็นไปตามเป้านี้ก็คงไม่แปลกใจที่จะได้เห็นกำไร และ ราคาของ PTG ไปได้ไกลกว่านี้อีกหลายเท่าตัว ผมคิดว่าบริษัทเองก็รู้ว่าไม่ง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้จึงเข้าไปดูแลผู้ปลูกกาแฟตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงส่งมอบสินค้า รวมถึงพัฒนาบุคคลากรให้มีความพร้อมควบคู่กันไป เอาล่ะ

4. สุขภาพ (Health & Wellness ปัจจุบันมี NEXX Pharma และ ARINCARE อยู่ระหว่างการพัฒนาการให้บริการ โดยมุ่งไปที่การขายสินค้าประเภทยา ที่ผู้ใช้งานสามารถปรึกษาเภสัชกรและแพทย์ออนไลน์ เทียบราคายาก่อนซื้อ ส่งยาถึงบ้านทั่วไประเทศ และ แน่นอนสะสมแต้มกับบัตร PT Max Card ได้ด้วยเช่นกัน


5. Digital Platform ปัจจุบันมี Maxbit ที่ดูน่าตื่นเต้นสุดในกลุ่ม ถือหุ้น 35% ลงทุนเริ่มแรกไปแล้ว 300 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทที่อยู่อันดับ 1 ครองมาร์เกตแชร์ ประมาณ 85% และอันดับ 2 มีมาร์เกตแชร์ราว 7-8% บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าในช่วง 1 ปี จะมีสมาชิกเทรดประมาณ 300,000 ราย และมีมาร์เกตแชร์โตประมาณ 10% เพื่อก้าวสู่เบอร์ 2 ของกลุ่มตลาดนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ดูข้อมูลเพิ่มคลิก https://www.maxbit.com

6. Logistics กลุ่มนี้มี App ชื่อ 360 TRUCK มองเห็นโอกาสขยายกลุ่มลูกค้าการเดินทางปกติของปั้ม PT โดยผู้เจ้าของรถบรรทุกที่เข้าโปรแกรมสามารถเติมน้ำมันก่อนได้โดยไม่ต้องเสียเงิน และ ยังรับแต้มจากบัตร PT MAX CARD เพิ่มด้วยเช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกหักจากตัวโปรแกรม


7. Autocare กลุ่มนี้มี Autobacs ธุรกิจดูแลซ่อมบำรุงรถยนต์ ปีนี้มีเป้าสาขารวม 90 สาขาเติบโต 2 เท่าจากปีก่อนโดยมีเป้าไกลปี 2570 ที่ 334 สาขา

ส่วนตัวผมเคยใช้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรค เช็คสภาพ ถือว่าราคาเป็นมิตรช่างบริการดีและที่สำคัญได้ส่วนลดและสะสมแต้มจากบัตร MAX CARD PLUS เพิ่มเติมด้วย


8. พลังงานทดแทน เข้าลงทุนโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากชุมชน ขนาด 4.5 เมกะวัตต์ตั้งเป้า COD ได้ภายในปี 2568

ต้องใช้เงินลงทุนแต่ไม่เพิ่มทุนนะ ทั้งหมดก็เพื่อผลักดัน อัตรากำไรของ NONE-OIL ในอนาคต

ปี 2566 บริษัทตั้งเป้าลงทุนไว้ที่ 5,000-6,000 ล้านลาท เมื่อถูกถามถึงการเพิ่มทุน บริษัทมีเงินสดเพียงพอและมีส่วนของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน IBD อยู่ที่ 1.09 เท่า และ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่จะเพิ่มกำลังจากส่วนของ NONE-OIL บริษัทให้น้ำหนักการลงทุนในส่วนนี้ไว้ 3,500 - 4,500 ล้านบาท ต่อปีในขณะที่กลุ่ม OIL วางงบไว้เพียง 1,000 - 1,500 ล้านบาท เท่านั้น

โครงสร้างรายได้ธุรกิจปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นอดีตตั้งแต่วันนี้เป้นต้นไป ก้าวสู่ยุคใหม่ในธุรกิจ New S-Curve ปรับตัวสร้างความแตกต่าง พัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ควบคู่กับการดูแลสังคมไทยให้อยู่ดีมีสุข ดั่งที่คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฯ ได้กล่าวไว้ว่า ถ้าไม่รักเราแล้วจะไปรักแมวที่ไหน :D

เล่าเรื่องจากภาพ

ก่อนถึงเวลานัดหมาย ผม พี่น๊อต พี่พจน์ ลองทานข้าวในร้านกาแฟพันธุ์ไทย แบบอร่อยเลิส ที่สำคัญมื้อนี้ฟรี :D ลองสอบถามผู้บริหารบอกว่า เป็นเพียงการทดลองเท่านั้น



สถานที่ลงทะเบียนเป็นโถงใหญ่ มีบริการร้าน MAX MART และ กาแฟพันธุืไทยรองรับพนักงาน และ ผู้เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ ลักษณะการทำงานที่นี่จะคล้ายๆกับ Co-Working Space ไม่มีห้องทำงานเหมาะสำหรับพนักงานรุ่นใหม่จริงๆ ใครยังหางานอยู่ ปักหมุดที่นี่เลยครับ













ทีมงาน PTG จัดเป็นห้องเรียนขนาดเล็ก ไม่มีโต๊ะกั้น บรรยากาศใกล้ชิด หลังจากคุ้นเคยแล้วเดินเรื่องยาวไม่มีสะดุด



วันนีี้เราได้รับเกียรติจากผู้บริหารทั้งสองท่าน คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ คุณรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเกียรติเป็นอย่างมากสำหรับเรา ซ้ายสุดคือ คุณปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ หัวหน้าฝ่าย หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ และ ขวาสุด คุณ Noppasorn Wang ส่วนงาน นักลงทุนสัมพันธ์



ในที่สุดเวลาก็หมดลง 16.00 ทางผู้บริหาร Surprise เราด้วยบัตร MAX CARD PLUS จำนวน 35 ใบ กรี๊ดสลบกันไปทั้งหมด ขอเป็นตัวแผนรับมอบแจกให้กับเพื่อนๆ ก่อนกลับบ้าน ของผมเองบวกส่วนเกินรวม 2 ใบ เอาไปแจกใน Weekly Talk ดูกติกาได้จากคลิปนี้ https://www.youtube.com/watch?v=JLHNfMiQZO4



สรุปให้เพื่อนสมาชิก และ ผู้บริหารฟังอีกทีว่าวันนี้เราได้อะไรจากการมาครั้งนี้บ้าง กล่าวขอบคุณ ปรบมือกันเกลียวกราว



ก่อนกลับบ้านทักทายกัน พี่ขันคุยอะไรผมก็ฟังไม่ถนัดแต่น่าจะเกี่ยวกับหุ้นเด็ดสักตัวละมัง



คุณพิทักษ์ กับพี่พจน์ดูดีแบบอืม เท่ห์จัด




เอาสนุก โลกสดใส ให้แวะตรงนี้นะจ๊ะ จุ๊บจุ๊บ



ขอบคุณ สมาชิกทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในโอกาสต่อๆ ไปเราจะได้มาเรียนรู้และสนุกกับการลงทุนแบบนี้ไปด้วยกันอีกนะครับ