บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TGPRO พลิกกลยุทธ์! เน้นสินค้ากำไรสูง พยุงธุรกิจปี 67 แม้รายได้หด
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.06 (0.00%)
บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TGPRO) รายงานผลประกอบการปี 2567 แม้รายได้รวมลดลง แต่กำไรขั้นต้นกลับเพิ่มขึ้นจากการปรับกลยุทธ์เน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง
ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567
TGPRO รายงานรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,466.51 ล้านบาท ลดลง 5.85% จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยต่อกิโลกรัมที่ลดลงตามราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจาก 1.78% เป็น 10.45% เนื่องจากการให้ความสำคัญกับ Product Mix โดยเน้นสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นสูง เช่น ท่ออุตสาหกรรมอาหาร และท่ออุตสาหกรรมทั่วไปขนาดใหญ่
กำไรขั้นต้นพุ่ง สวนทางรายได้ที่ลด
แม้รายได้รวมจะลดลง แต่ TGPRO สามารถทำ กำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการปรับ Product Mix กลยุทธ์นี้ช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงได้บางส่วน โดยบริษัทฯ ได้ลดต้นทุนในการจัดจำหน่าย 4.20 ล้านบาท แต่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 18.86 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงินลดลง 4.71 ล้านบาท จากปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ TGPRO ยังคงขาดทุนสุทธิ 161.59 ล้านบาท ในปี 2567
สินทรัพย์ลด หนี้สินเพิ่ม รองรับการเติบโตในอนาคต
สินทรัพย์รวมของ TGPRO ลดลง 90.85 ล้านบาท เหลือ 2,706.53 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ (จากค่าเสื่อมราคา) รวมถึงสินค้าคงเหลือสุทธิที่ลดลง 53.34 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน (ปี 2567 อยู่ที่ 158 วัน) ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 70.74 ล้านบาท เป็น 982.75 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน รวมถึงเจ้าหนี้การค้า เพื่อรองรับการซื้อวัตถุดิบสำหรับการผลิตและการจำหน่ายในอนาคต
สรุป: TGPRO มุ่งเน้นกลยุทธ์ระยะยาว
โดยสรุป TGPRO เผชิญกับความท้าทายในปี 2567 จากรายได้ที่ลดลง แต่บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวด้วยการเพิ่มกำไรขั้นต้นผ่านการปรับ Product Mix และการบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มขึ้นของหนี้สินเพื่อรองรับการซื้อวัตถุดิบ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตและการจำหน่ายในอนาคต อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการหนี้สินอย่างรอบคอบจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ TGPRO ในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว