บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) ประจำปี 2567 โดยวิเคราะห์ข้อมูลรายไตรมาสและภาพรวมทั้งปี เพื่อให้เห็นถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท

ภาพรวมผลประกอบการปี 2567

NCL มีรายได้รวมในปี 2567 อยู่ที่ 695 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 3/2567) บริษัทฯ ประสบปัญหา ขาดทุนสุทธิ 268.8 ล้านบาท ซึ่งแม้จะลดลงร้อยละ 18 จากปีก่อน แต่ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตามอง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ

• รายได้จากการขายที่ลดลง: รายได้จากการขายลดลงถึง 45 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 100 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการจำหน่ายบริษัทย่อยในช่วงปี 2566 ซึ่งส่งผลให้ไม่มีรายได้ส่วนนี้เข้ามาในปี 2567
• การเปลี่ยนแปลงในรายได้อื่น: ในปี 2566 NCL มีกำไรจากการจำหน่ายบริษัทย่อยจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งทำให้รายได้อื่นสูง แต่ในปี 2567 ไม่มีรายการดังกล่าว ส่งผลให้รายได้อื่นลดลงอย่างมาก
• ต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มขึ้น: แม้ว่าต้นทุนขายจะลดลงจากการจำหน่ายบริษัทย่อย แต่ต้นทุนการให้บริการกลับเพิ่มขึ้น 40.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 7 ตามการขยายตัวของรายได้ในบางส่วน
• ค่าใช้จ่ายพิเศษ: ในปี 2567 NCL มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวรวม 169.3 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 164 ล้านบาท
• สภาวะเศรษฐกิจ: ธุรกิจบริการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LCL) ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนทีมบริหารและการตลาด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจองระวางเรือที่สูงขึ้น

การวิเคราะห์รายได้และกำไร (แยกตามไตรมาสและรอบปี)

จากตารางจะเห็นได้ว่า:

• Q1/2567: เริ่มต้นปีด้วยรายได้ที่ใกล้เคียงกับ Q4/2566 แต่ยังคงประสบภาวะขาดทุน
• Q2/2567: รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้
• Q3/2567: รายได้ลดลงจาก Q2/2567 และขาดทุนเพิ่มขึ้น
• Q4/2567: รายได้ใกล้เคียงกับ Q1/2567 และ Q4/2566 ขาดทุนลดลงจาก Q3/2567
• ภาพรวมปี 2567: รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

สถานะทางการเงิน

• สินทรัพย์รวมของ NCL ลดลง 233.6 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด, สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น, เงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกัน และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น (จากการจำหน่ายเงินลงทุน)
• หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 28.2 ล้านบาท เนื่องจากเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น, เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นที่เพิ่มขึ้น
• ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 261.2 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนสำหรับงวดปัจจุบัน

สรุป

ผลประกอบการของ NCL ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่บริษัทเผชิญอยู่ ทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยภายใน เช่น การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างธุรกิจ อย่างไรก็ตาม NCL ยังมีโอกาสในการปรับปรุงและเติบโตในอนาคต หากบริษัทสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและคว้าโอกาสที่เข้ามาได้

ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้, กำไร, อัตรากำไรขั้นต้น, อัตรากำไรสุทธิ, และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E): จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น เราสามารถสรุปความสัมพันธ์ที่ส่งผลกระทบต่อกำไรของ NCL ได้ดังนี้:

• รายได้: การลดลงของรายได้จากการขาย (อันเป็นผลจากการจำหน่ายบริษัทย่อย) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำไรโดยรวมของบริษัท
• อัตรากำไรขั้นต้น: อัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัว (10.5%) บ่งชี้ว่าบริษัทไม่สามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากต้นทุนการผลิตและการให้บริการได้มากนัก
• ค่าใช้จ่ายพิเศษ: ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (โดยเฉพาะขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน) ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลขาดทุนสุทธิ
• อัตรากำไรสุทธิ: การที่บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายโดยรวม
• D/E Ratio (โดยประมาณ): หาก D/E Ratio สูงขึ้น จะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านการเงินมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการลงทุนและการเติบโตในอนาคต

NCL กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทาย การจำหน่ายบริษัทย่อยส่งผลกระทบต่อรายได้ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายพิเศษกดดันกำไรสุทธิ บริษัทจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และบริหารจัดการหนี้สินอย่างระมัดระวัง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินและโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต