บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TPBI กำไรปี 67 โตสวนกระแส! ยอดขายพุ่งดันกำไรสุทธิ 227.19 ล้านบาท
P/E 5.87 YIELD 10.42 ราคา 2.88 (0.00%)
วิเคราะห์ผลประกอบการ TPBI ไตรมาส 4/2567 และภาพรวมปี 2567: รายได้เพิ่ม กำไรสุทธิโต แต่ไตรมาส 4 กำไรวูบ
ไฮไลท์สำคัญ: กำไรปี 67 โต 10.74% แม้ยอดขาย Q4 ลด
TPBI รายงานผลประกอบการปี 2567 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.74% คิดเป็น 227.19 ล้านบาท แม้ว่าในไตรมาส 4/2567 ยอดขายจะลดลง 4.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 4 ลดลงถึง 51% เหลือ 53.48 ล้านบาท
รายได้รวม: ปี 67 โตแรง, Q4 แผ่ว
ภาพรวมปี 2567 TPBI มียอดขายรวม 5,681.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.60% จากปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายสินค้า และจัดเก็บสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ หลังจากชะลอคำสั่งซื้อในปี 2566 จากสินค้าคงคลังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/2567 ยอดขายรวมอยู่ที่ 1,262.87 ล้านบาท ลดลง 4.80% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 โดยสัดส่วนยอดขายตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ในไตรมาส 4/2567 ประกอบด้วย: สินค้ากลุ่ม Cons 43%, สินค้ากลุ่ม Flexs 29%, สินค้ากลุ่ม Paper 8%, และสินค้ากลุ่ม Others 20%
วิเคราะห์ต้นทุนและค่าใช้จ่าย: คุมต้นทุนขายอยู่ แต่ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่ม
ในไตรมาส 4/2567 ต้นทุนขายอยู่ที่ 1,052.44 ล้านบาท ลดลง 3.06% จากปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการลดลงของยอดขาย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 117.11 ล้านบาท ลดลง 1.32% อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพรวมปี 2567 ต้นทุนในการขายเพิ่มขึ้นเป็น 4,780.79 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 495.89 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย
สินทรัพย์และหนี้สิน: หนี้สินลดฮวบ เงินสดในมือเพิ่ม
ณ สิ้นปี 2567 TPBI มีสินทรัพย์รวม 4,416.68 ล้านบาท ลดลง 2.58% จากสิ้นปี 2566 โดยสินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 2.15% จากการที่เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นถึง 33.40% ในขณะที่สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนลดลง 6.53% จากการลดลงของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ ที่น่าสนใจคือ หนี้สินรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 13.26% เหลือ 1,447.07 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของเงินกู้ระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงิน ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
สรุป: ปี 67 โตสวย Q4 ชะลอตัว เน้นสินค้ากำไรดีอนาคตยั่งยืน
โดยสรุป TPBI มีผลประกอบการปี 2567 ที่เติบโตได้ดี แม้ว่าไตรมาส 4 จะชะลอตัวลง บริษัทมีนโยบายที่ชัดเจนในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตสินค้าโดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรดีและความยั่งยืน ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น สภาวะตลาดและกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน