บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ประเด็นสำคัญ:

FSSIA คาดการณ์ว่าผลประกอบการของ TTA ในปี 2568 จะไม่สดใส เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด, การฟื้นตัวของอุปสงค์จากจีนที่ล่าช้า, และความขัดแย้งทางการค้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงแม้จะปรับลดประมาณการกำไรหลักสำหรับปี 2568-2569 ลง 1-2% แต่ยังคงแนะนำ "ถือ" โดยมีราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.40 บาท (หลังเพิ่มทุน)

รายละเอียดการวิเคราะห์:

FSSIA คาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 4/2567 ของ TTA จะลดลง 25.5% (QoQ) แม้จะยังดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยคาดการณ์ว่าอัตราค่าระวางเรือ (freight rate) ของ TTA จะอยู่ที่ 13,005 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ลดลง 4.8% (QoQ) และ 6.5% (YoY) เนื่องจากเรือที่กลับจากการซ่อมบำรุงสามารถกลับมาดำเนินการได้เต็มกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (offshore services) คาดว่าจะสร้างรายได้ 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 126 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2567 ส่งผลให้รายได้รวมของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท ลดลง 14.3% (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 13.2% (YoY)

FSSIA ประเมินว่ากำไรหลักในไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 257.2 ล้านบาท ลดลง 25.5% (QoQ) แต่ยังคงดีขึ้นจากผลขาดทุนในไตรมาส 4/2566 อย่างไรก็ตาม กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX gains) อาจช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 757.2 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 7.8% (YoY) ในขณะที่กำไรหลักอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.8% (YoY)

ข้อสังเกต:

FSSIA ปรับลดประมาณการกำไรหลักสำหรับปี 2568-2569 ลงเล็กน้อย (1-2%) เนื่องจากคาดว่าธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกอง (bulk shipping) จะอ่อนแอลงจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด, การฟื้นตัวของอุปสงค์จากจีนที่ล่าช้า, และความขัดแย้งทางการค้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้

ถึงแม้ว่าราคาเป้าหมายเดิมจะอยู่ที่ 6.40 บาท แต่หากการเพิ่มทุน RO (Rights Offering) สำเร็จ ราคาเป้าหมายจะลดลงเหลือ 4.40 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันเพียงเล็กน้อย

สรุป:

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ TTA โดยมีราคาเป้าหมาย 4.40 บาท (หลังเพิ่มทุน) แม้ว่าแนวโน้มธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองในปี 2568 จะไม่สดใสเท่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน