https://aio.panphol.com/assets/images/community/13192_DB6061.png

CPF: คาดการณ์กำไร Q4 อ่อนตัว แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของราคาเนื้อสุกร

P/E 6.00 YIELD 4.85 ราคา 20.70 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

  • FSSIA คาดการณ์กำไร Q4/25 อ่อนตัว จากราคาเนื้อสุกรที่อ่อนแอในเวียดนามและจีน
  • คงราคาเป้าหมายเดิมที่ 28 บาท พร้อมคำแนะนำ "ถือ" หรือ "ซื้อเก็งกำไร" โดยเน้นที่การฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์
  • การนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวก ช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิ

ผลการดำเนินงานและแนวโน้ม

CPF รายงานกำไรสุทธิ Q3/25 ที่ 5.19 พันล้านบาท ลดลง 50.0% QoQ และ 29.0% YoY หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 6.09 พันล้านบาท ลดลง 44.5% QoQ และ 6.8% YoY เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรลดลงคือ ราคาเนื้อสุกรที่ลดลงในประเทศไทยและเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรลดลงเนื่องจากผลขาดทุนจากธุรกิจสุกรในจีน อย่างไรก็ตาม การควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ยังคงแข็งแกร่ง

FSSIA คาดการณ์ว่ากำไรใน Q4/25 จะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากราคาเนื้อสุกรในเวียดนามและจีนลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการฟื้นตัวใน Q1/26 โดย CPF คาดว่าราคาเนื้อสุกรในเวียดนามจะฟื้นตัวในช่วงเทศกาลตรุษเต็ต ในขณะที่การฟื้นตัวของจีนจะขึ้นอยู่กับการลดอุปทานที่ประสานงานกันระหว่างผู้ผลิตรายใหญ่ 25 ราย

ปัจจัยบวกและข้อสังเกต

การนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกต่อ CPF เนื่องจากมีต้นทุนประมาณ 8.5 บาท/กก. (รวมค่าขนส่ง) ซึ่งถูกกว่าราคาในประเทศประมาณ 13% ภายใต้กฎระเบียบปัจจุบัน ผู้นำเข้าต้องซื้อข้าวโพดในประเทศในอัตราส่วน 3:1 ทำให้สามารถนำเข้าได้สูงสุด 3 ล้านตันต่อปี หาก CPF ได้รับประโยชน์ตามสัดส่วนจากการใช้ข้าวโพดนำเข้าในประเทศ จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 0.1% และกำไรประมาณ 3-4%

FSSIA ตั้งข้อสังเกตว่า ราคาเนื้อสุกรในประเทศไทยใน Q4TD เฉลี่ยอยู่ที่ 56 บาท/กก. ลดลง 12.5% QoQ และ 20.7% YoY แต่มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก โดยได้รับการสนับสนุนจากการลดอุปทานที่ประสานงานกันโดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะสูงถึง 80 บาท/กก. ซึ่งสูงกว่าต้นทุนของเกษตรกรรายย่อยที่ 75 บาท/กก.

สรุปและคำแนะนำ

FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2569 ที่ +39.1% YoY และ -24.7% YoY ตามลำดับ ผู้บริหารคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2569 จะกลับสู่ระดับปกติที่ประมาณ 15-16% ซึ่งถือว่ายั่งยืน เมื่อเทียบกับระดับที่สูงผิดปกติที่ 18-19% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 FSSIA คงราคาเป้าหมายที่ 28 บาท และคำแนะนำ "ถือ" หรือ "ซื้อเก็งกำไร" โดยเน้นที่ศักยภาพในการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะในเวียดนามและจีน

วิธีคิดราคาเป้าหมาย: อิงตามการประเมินมูลค่าด้วย P/E ratio โดยพิจารณาจากแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ในตลาดหลัก

โพสต์ล่าสุด