บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ 1,730.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงจากภาคส่งออกและการท่องเที่ยวที่อ่อนแอลง

ผลประกอบการ:

กำไรสุทธิของ TISCO เติบโต 1.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 และ 5.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก:

• รายได้รวมที่เพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์และจัดการกองทุน
• กำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ชะลอตัวลง และบริษัทได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้น

ด้านสินเชื่อรวมลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 230,408.55 ล้านบาท โดยสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่สินเชื่อธุรกิจลดลง

จุดที่น่าสนใจ:

แม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัว แต่ TISCO สามารถบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี โดยมี:

• อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 2.31%
• อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 171.2%
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 4.84%

การเพิ่มขึ้นของสำรอง ECL สะท้อนถึงความระมัดระวังในการบริหารความเสี่ยงของบริษัท

สรุปและแนวโน้ม:

TISCO ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีความแข็งแกร่งในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวจากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ธุรกิจจัดการกองทุน และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ