บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

บล.เอเซียพลัส (ASPS) ปรับคำแนะนำ CKP เป็น "Outperform" ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท มองกำไร Q2/68 โตเด่น รับแรงหนุนจากฤดูฝน ปริมาณน้ำเพิ่ม หนุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำผลิตกระแสไฟฟ้ามากขึ้น

ผลประกอบการ Q2/68 โตกระโดด

CKP รายงานผลประกอบการ Q2/68 กำไรสุทธิ 610 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 70 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากกำไรปกติที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และผลบวกจากค่าเงินบาทแข็งค่า

กำไรปกติอยู่ที่ 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 63 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปริมาณขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าหลักทั้งไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) 324 ล้านบาท จากโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง

โดยรวมแล้ว กำไรปกติและกำไรสุทธิ 1H68 อยู่ที่ 416 และ 681 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดทุน สาเหตุหลักมาจากปริมาณฝนและปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่า

คาด Q3/68 กำไรสูงสุดของปี

เอเซียพลัสคาดการณ์ว่า กำไรปกติ Q3/68 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ และมีโอกาสทำระดับสูงสุดรายไตรมาสของปี จากผลบวกหลักจากช่วงฤดูฝนที่ส่งผลให้กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น

CKP ยังคงตั้งเป้าหมายเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนรายใหญ่ในภูมิภาค โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิต 3.6 พัน MW (รวมหลวงพระบางที่ 1.46 พัน MW แล้ว) โดยเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

นอกจากนี้ CKP ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้าน ESG โดยได้รับการจัดอันดับ ESG Ratings ที่ระดับสูงสุด AAA ซึ่งถือเป็นส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร

ข้อสังเกตและประเด็นความเสี่ยง

เอเซียพลัสให้ข้อสังเกตว่า ราคาหุ้น CKP ปรับฐานลงมาแล้วในระดับหนึ่ง จึงมองเป็นโอกาสในการเข้า trading รับช่วงฤดูฝนระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม CKP ยังคงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของปริมาณน้ำฝนที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ รวมถึงความเสี่ยงจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ที่อาจไม่เป็นไปตามแผน

สรุปคำแนะนำ

บล.เอเซียพลัส ปรับคำแนะนำ CKP เป็น "Outperform" จาก "Underperform" โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท อิงจากแนวโน้มผลประกอบการที่คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน Q3/68 จากปัจจัยฤดูกาล และการดำเนินงานด้าน ESG ที่โดดเด่น

ความเสี่ยงที่ต้องติดตาม: ปริมาณน้ำฝน, ความเสี่ยงในการก่อสร้างโครงการใหม่