บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

Phillip Securities (ประเทศไทย) หรือ PST มองว่าหุ้น ASW (แอสเซทไวส์) น่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว โดยคาดการณ์กำไรในไตรมาส 3/2568 จะฟื้นตัวดีขึ้น และแนะนำ "ซื้อ" สำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยมีราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 8.95 บาท

วิเคราะห์ผลประกอบการและแนวโน้ม

ในไตรมาส 2/2568 ASW มีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท ลดลง 66.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (y-y) เนื่องจากการลดลงของยอดโอนและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (q-q) กำไรปกติมีการฟื้นตัวดีขึ้น จากยอดโอนและ GPM ที่ดีขึ้น โดยมีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จก่อนกำหนดและเริ่มโอน 3 โครงการ ได้แก่ Atmoz Palacio Ladprao - Wanghin, Atmoz Canvas Rayong และ The Title LEGENDARY Bang-Tao

สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2568 ASW เปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 10,700 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (y-y) เนื่องจากการบริโภคโดยรวมที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทต้องระมัดระวังในการขยายโครงการและควบคุมระดับสต๊อก อย่างไรก็ตาม ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 20.8% (y-y) จากยอดขายที่ภูเก็ตเป็นหลัก ส่งผลให้มี Backlog สูงขึ้นที่ 32,779 ล้านบาท

แนวโน้มในไตรมาส 3/2568 คาดว่ายอดโอนและ GPM จะฟื้นตัวดีขึ้น (q-q) จากการโอนคอนโดมิเนียมใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ The Title LEGENDARY Bang-Tao ที่โอนได้เต็มไตรมาส และมีคอนโดมิเนียม MAROON RATCHADA ที่จะเข้ามาเสริม นอกจากนี้ ASW มีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ได้แก่ คอนโดมิเนียม Kave Alley Chaengwattana และโครงการแนวราบ Villa Kirara (ภูเก็ต)

ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องติดตาม

PST ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของ ASW ที่คำนึงถึงความยั่งยืน โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

สรุปและคำแนะนำ

Phillip Securities (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น ASW โดยมีราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 8.95 บาท อิงจาก P/E ที่ 5.0 เท่า โดยมองว่ากำไรของ ASW ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2568 และคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2569 จากคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและพร้อมโอนมากขึ้น