บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SNP กำไรทรุด! รายได้ร้านอาหารดิ่ง ฉุดกำไร Q2/68 ร่วง 59%
P/E 17.25 YIELD 8.20 ราคา 9.80 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: SNP กำไรไตรมาส 2 ปี 68 ลดลง 59% เหตุรายได้ร้านอาหารในประเทศและต่างประเทศลดลง ต้นทุนพุ่ง
บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (SNP) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้รวม 1,323 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,453 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 59% เหลือ 36 ล้านบาท จาก 89 ล้านบาทในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากร้านอาหารในประเทศ ธุรกิจค้าปลีกและรับจ้างผลิต รวมถึงร้านอาหารในต่างประเทศ นอกจากนี้ ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นก็มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิด้วย
ผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว: รายได้ลดในทุกช่องทาง อัตรากำไรขั้นต้นลดลง
รายได้ลดลงในทุกช่องทาง โดยเฉพาะร้านอาหารในประเทศ (ลดลง 7% ในไตรมาส 2 และ 6% ในครึ่งปีแรก) เนื่องจากการลดลงของยอดขายจากการซื้อกลับบ้าน การรับประทานที่ร้าน และบริการจัดส่งอาหาร ธุรกิจค้าปลีกและรับจ้างผลิตลดลง 11% ในไตรมาส 2 และ 4% ในครึ่งปีแรก สาเหตุหลักมาจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่มาช้ากว่าปีก่อน ร้านอาหารในต่างประเทศลดลง 27% ในไตรมาส 2 และ 20% ในครึ่งปีแรก เนื่องจากการปิดปรับปรุงร้านและการเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ในประเทศอังกฤษ อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 1.1% ในไตรมาส 2 และ 1.0% ในครึ่งปีแรก สาเหตุหลักมาจากราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มสูงขึ้น
ข้อสังเกตุ: ต้นทุนพุ่ง ฉุดกำไร ลดเงินสดในมือ
ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 2.1% ในไตรมาส 2 และ 2.6% ในครึ่งปีแรก สาเหตุหลักมาจากค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเงื่อนไขการรับประกันค่าเช่าขั้นต่ำ ค่าเสื่อมราคาจากการเปิดร้านสาขาใหม่และการปรับปรุงสาขา รวมถึงเงินเดือนที่เพิ่มสูงขึ้น ณ มิถุนายน 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 4,076 ล้านบาท ลดลงจาก 4,746 ล้านบาท ณ ธันวาคม 2567 หนี้สินรวมอยู่ที่ 1,654 ล้านบาท ลดลงจาก 2,010 ล้านบาท ณ ธันวาคม 2567 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง 451 ล้านบาท เหลือ 427 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการจ่ายเงินปันผล การชำระหนี้สิน และการซื้อหุ้นคืน
สรุป: SNP มุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ขยายธุรกิจแฟรนไชส์ ท่ามกลางความท้าทายจากเศรษฐกิจและต้นทุน
SNP มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านแนวคิดร้านรูปแบบใหม่ การเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ทันกระแส การขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังประเทศลาว และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและบริการอาหาร บริษัทประสบความสำเร็จในการนำเสนอสินค้าใหม่ เช่น "Shio Pan" และขยายจุดขาย "Fresh Bake" ได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ