https://aio.panphol.com/assets/images/community/7813_AFED2D.png

WHA กำไรครึ่งปีแรกโตเด่น! FSSIA ชี้เป้า 5.40 บาท

P/E 9.75 YIELD 5.92 ราคา 3.22 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ:

FSSIA คาดการณ์กำไรของ WHA ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 จะเติบโตอย่างโดดเด่น แม้ว่ายอดขายและโอนที่ดินในไตรมาส 2 จะชะลอตัวลงบ้าง แต่ยังมีปัจจัยหนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง และกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ WHAIR

2Q25 ยอดขายชะลอตัว แต่เป้าหมายทั้งปียังคงเดิม

FSSIA คาดการณ์ยอดขายที่ดินในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 293 ไร่ ส่วนใหญ่ในประเทศไทย แม้ว่าความต้องการที่ดินจากลูกค้ายังคงแข็งแกร่ง แต่ธุรกรรมบางส่วนไม่สามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการขายที่ดินแปลงใหญ่ประมาณ 400-500 ไร่ในไตรมาส 3/2568 หากยอดขายที่ดินเป็นไปตามเป้าหมาย ยอดโอนที่ดินในครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 1,160 ไร่ คิดเป็น 49% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 2,350 ไร่

ถึงแม้จะมีเรื่องความไม่แน่นอนของภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ความต้องการจากลูกค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และสนับสนุนเป้าหมายยอดขายและการโอนในปี 2568 อย่างไรก็ตาม เป้าหมายปี 2569 อาจต้องมีการทบทวน หากมีความชัดเจนเกี่ยวกับภาษีการค้าของไทยมากขึ้น

FSSIA ประเมินรายได้ในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 56.0% ลดลงจาก 58.8% ในไตรมาส 1/2568 เนื่องจากอัตรากำไรของธุรกิจสาธารณูปโภคลดลง ในขณะที่อัตรากำไรจากการขายที่ดินยังคงแข็งแกร่ง กำไรหลัก(Core profit) คาดว่าจะอยู่ที่ 942 ล้านบาท ลดลง 54.6% QoQ เนื่องจากการโอนที่ดินชะลอตัว

กำไรพิเศษหนุน คาดกำไรสุทธิปี 2568 ตามเป้า

FSSIA คาดว่าจะมีกำไรพิเศษ 200 ล้านบาทจากการขายสินทรัพย์ WHAIR ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2568 ให้เป็น 1.1 พันล้านบาท กำไรหลักในครึ่งปีแรกคิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งเป็นไปตามมุมมองที่ว่ากำไรจะกระจุกตัวในช่วงครึ่งปีแรก FSSIA ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 2568 ไว้ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ WHA ด้วยราคาเป้าหมาย 5.40 บาท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมูลค่าที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ P/E ปี 2568 เพียง 9.9 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5-6% ถึงแม้ว่าสถานการณ์ภาษีการค้าของสหรัฐฯ จะทำให้ลูกค้าบางรายที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ชะลอการตัดสินใจ แต่ Backlog จำนวนมากสำหรับปีนี้ และศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุน

วิธีคิดราคาเป้าหมาย: ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท อิงจาก P/E ปี 2568 ที่ 16 เท่า

โพสต์ล่าสุด