บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
เจาะลึก THANI: สรุป Oppday Q1/2568 - โอกาสและความท้าทายในโลก Leasing
P/E 11.34 YIELD 4.02 ราคา 1.74 (0.00%)
เจาะลึก THANI: สรุป Oppday Q1/2568 - โอกาสและความท้าทายในโลก Leasing
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**ในช่วงไตรมาสที่ 1/2568 บริษัท ราชธานี ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน โดยรวมแล้วผลกระทบต่อธุรกิจอยู่ในระดับทรงตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้:
-
รถบรรทุก: ตลาดรถบรรทุกยังคงซบเซา โดยเฉพาะรถใหม่ การขายยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก แม้ว่ารถเก่าจะดูดีขึ้นบ้าง แต่โดยรวมแล้วตลาดยังคงหดตัวประมาณ 30% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
-
Luxury Car: รถยนต์หรูยังคงเป็นที่ต้องการในตลาด และไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสภาวะเศรษฐกิจ
-
รถอื่นๆ: บิ๊กไบค์มีการเติบโตเล็กน้อย ส่วนแท็กซี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนรถใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะรถแท็กซี่ไฟฟ้า
ตัวเลขทางการเงิน:
-
สินเชื่อใหม่: บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อใหม่ปี 2568 ไว้ที่ 16,500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
-
กำไรสุทธิ: ไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 253 ล้านบาท ลดลง 26 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อน
-
รายได้ดอกเบี้ย: ลดลง 14% เนื่องจากความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ
-
NPL: อยู่ที่ 2.93% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
-
ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรอง (Credit Cost): ยังสูงเกิน 2%
-
DE Ratio: ลดลงอยู่ที่ 2.52
บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในหลายด้าน โดยเฉพาะ:
-
ตลาดแท็กซี่ไฟฟ้า: มีโอกาสในการเติบโตเนื่องจากมีการเปลี่ยนรถแท็กซี่จำนวนมาก โดยบริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ประมาณ 50% ในการเปลี่ยนถ่ายรอบนี้
-
การขยายตลาดใน CLMV: การซื้อขายชายแดน (Border Trade) กับประเทศเพื่อนบ้านมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายรถบรรทุก
กลยุทธ์: บริษัทจะเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง โดยพิจารณาจากสัญญาณเศรษฐกิจและธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:
-
เศรษฐกิจโลกและในประเทศ: สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สงคราม และความขัดแย้งต่างๆ ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการท่องเที่ยว
-
ภัยพิบัติ: ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งและธุรกิจรถบรรทุก
-
การแข่งขัน: แม้ว่าการแข่งขันในตลาดจะยังไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวัง
ผลกระทบ: ความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อเป็นไปอย่างระมัดระวัง และอาจกระทบต่อผลประกอบการโดยรวม
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ดังนี้:
-
การบริหารจัดการ NPL: ควบคุมและลด NPL อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 3%
-
การบริหารจัดการสภาพคล่อง: รักษาสภาพคล่องที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพิ่มมากนัก
-
การติดตามและประเมินสถานการณ์: เฝ้าดูสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
ตัวชี้วัดความสำเร็จ: การลด NPL, การรักษาสภาพคล่อง, และการเพิ่ม Coverage Ratio
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**บริษัทคาดการณ์ว่าแนวโน้มในอนาคตจะเป็นดังนี้:
-
ตลาดรถบรรทุก: ยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยขึ้นอยู่กับสัญญาณเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น
-
ตลาดแท็กซี่: มีโอกาสเติบโตจากการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า
-
การปล่อยสินเชื่อ: จะยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง จนกว่าจะมีสัญญาณบวกที่ชัดเจน
วิสัยทัศน์: บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมั่นคง โดยการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และการคว้าโอกาสในตลาดใหม่ๆ
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** (เริ่ม นาทีที่ 32.15)-
ค่าใช้จ่ายตัวเลขของขาดทุนรถยึดไตรมาส 1 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
-
ตอบ การที่เห็นตัวเลขของQ1 ที่ออกมา 14 ล้านเป็นในส่วนของการรีเวิร์สรายการ ไม่ได้เป็นผลขาดทุน เพราะว่า Q4/67 มีการตั้งด้อยค่ารถยึดไว้สูง
-
ปัจจัยที่ทำให้เล็งเห็นในการปล่อยสินเชื่อ และ คาดการณ์ว่าจะเล่งปล่อยสินเชื่อ ณ ตอนนี้
-
ตอบ ปัจจัยหลักอยู่ที่สัญญางานที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการขนส่งรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีตัวแปรอื่นๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจโดยรวม การเมือง ธุรกิจบางประเภทที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และการนำเข้าส่งออก หากมีสัญญาณบวกก็จะเร่งปล่อยสินเชื่อ
-
สัดส่วน Loan State 2 ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากอะไร
-
ตอบ ลูกค้าของ THANI มีทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาอาจมีลูกค้ารายใหญ่บางรายที่สถานะลดลงจาก State 1 มาเป็น State 2 ทางบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ให้ความช่วยเหลือทั้งการปรับโครงสร้างหนี้และการขยายเวลาชำระหนี้
-
THANI มีมุมมองบวกหรือลบต่อ Segment รถบรรทุกแต่ละประเภทอย่างไร
-
ตอบ ธุรกิจนำเข้าส่งออก (Import-Export) ในไตรมาส 1 มีตัวเลขที่ดี แต่อาจมีความกังวลในไตรมาส 2 ด้านการก่อสร้าง (Construction) ยังไม่ดีขึ้นทั้งภาคเอกชนและรัฐบาล ด้านพลังงานยังทรงตัว ด้านอุปโภคบริโภคยังดีอยู่โดยเฉพาะรถตู้ทึบ 6 ล้อที่วิ่งทั่วไป ราคาค่อนข้างดี และการซื้อขายชายแดน (Border Trade) ใน CLMV เริ่มดีขึ้น
-
สินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นอย่างไร หนี้เสียของกลุ่มนี้เมื่อเทียบกับเช่าซื้อเป็นอย่างไร
-
ตอบ หนี้เสียของสินเชื่อจำนำทะเบียนน้อยมาก ณ ไตรมาส 1 ไม่ถึง 1% การปล่อยสินเชื่อยังคงระมัดระวังและวิเคราะห์อย่างเข้มงวด
-
ตลาดรถบรรทุกใหม่เป็นอย่างไรในเดือนที่เหลือของปี
-
ตอบ ตัวเลขยังไม่ดีขึ้น อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Euro 3 เป็น Euro 5 ยอดขายยังติดลบ 26-28% แต่รถ Used ทรงตัวได้ดีกว่า
-
Coverage Ratio ที่เพิ่มขึ้น 130% ผู้บริหารตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร
-
ตอบ เกินความคาดหมายที่ตั้งเป้าไว้เกิน 100% เพื่อความแข็งแกร่งของบริษัท ในปีนี้ที่ทำได้ 130% ถือว่ารับอยู่และเหมาะสมแล้ว แต่คาดว่าคงไม่เพิ่มไปมากกว่านี้
-
คาดว่าราคาลดบรรทุกมือสองและประมาณการยึดจะเป็นอย่างไรในช่วงที่เหลือของปี
-
ตอบ THANI มียอดการยึดรถเฉลี่ย 120 คัน/เดือน ลดลงจาก 150-160 คัน/เดือน ในปีที่แล้ว สต็อกรถยึดลดลง 30% เหลือ 700 คัน คาดว่าจะขายหมดภายในไตรมาสหน้าและกลับสู่สถานการณ์ปกติ (300 คัน) ราคารถบรรทุกขึ้นอยู่กับ Segment รถที่ใช้ในการก่อสร้างราคาไม่ดี แต่รถที่ใช้ขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารราคาดีขึ้น
-
นโยบายปันผลปีหน้า จะปันเป็นเงินสดหรือหุ้น
-
ตอบ คาดว่าจะปันเป็นเงินสด เนื่องจาก DE Ratio ต่ำ
-
Credit Cost จะลดลงได้อีกไหม
-
ตอบ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า กระบวนการติดตามทวงถามหนี้ และสถานการณ์เศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจเอื้ออำนวยและลูกค้ามีความสามารถในการชำระหนี้ คาดว่าจะลดลงได้
-
ถ้าขายรถยึดออกไม่ได้ จะทำอย่างไรให้ลดรถในลานประมูล
-
ตอบ THANI ยังคงขายรถยึดได้ดี สามารถทำยอดขายในไตรมาส 1 ได้ค่อนข้างดีมาก
-
THANI จะเร่งปล่อย New Loan เท่าไหร่ต่อ Q
-
ตอบ ไตรมาสนี้ปล่อยไป 3,200 ล้านบาท เฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อเดือน คาดการณ์ว่าไตรมาส 2 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ส่วนที่ต้องไปลุ้นกันคือในส่วนของตัวไตรมาสที่เหลือ
โดยสรุป THANI ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงและควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ แม้ว่าตลาดรถบรรทุกจะยังไม่ฟื้นตัว แต่บริษัทก็มีโอกาสในการเติบโตจากตลาดแท็กซี่ไฟฟ้าและการขยายตลาดใน CLMV นอกจากนี้ THANI ยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ และคว้าโอกาสในการเติบโตในอนาคต