บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

Krungsri Securities (KSS) ยังคงแนะนำ "Buy" สำหรับหุ้น OR โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 17.0 บาท มองว่าช่วงที่ราคาหุ้นอาจถูกกดดันจากแนวโน้มกำไร Q2/25 ที่ชะลอตัวลง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากธุรกิจ Mobility จะฟื้นตัวในปี 2568-2569 หนุนจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่คาดว่าจะดีขึ้น

ผลประกอบการ Q1/25:

OR รายงานกำไรสุทธิ Q1/25 ที่ 4,379 ล้านบาท (+18% y-y, +46% q-q) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 3,758 ล้านบาท (+9% y-y, +45% q-q) ใกล้เคียงกับที่คาด การเติบโต y-y มาจากธุรกิจ Lifestyle ที่ปริมาณขายกาแฟเพิ่มขึ้น (+5%) และค่าใช้จ่าย outsource ลดลง ส่วนการฟื้นตัว q-q มาจาก 3 ปัจจัยหลัก: ธุรกิจ Mobility กำไรขั้นต้นต่อลิตรฟื้นตัวมาที่ 1.02 บาท/ลิตร (-6% y-y, +24% q-q) ธุรกิจ Lifestyle ลดค่าใช้จ่ายการตลาดและโฆษณา ธุรกิจ Global ปริมาณขายน้ํามันฟื้นตัวตามความต้องการน้ํามัน Jet ในฟิลิปปินส์

ข้อสังเกต:

KSS คาดการณ์ว่ากำไรปกติ Q2/25 จะทรงตัว y-y โดยธุรกิจ Lifestyle ที่กำไรเพิ่มขึ้นจะชดเชยธุรกิจ Mobility ที่ถูกผลกระทบจาก stock loss ฉุดกำไรขั้นต้นต่อลิตรลดลง q-q เนื่องจากราคาน้ํามันลดลงเร็ว และมีส่วนลดราคาน้ํามันเบนซิน 0.5 บาท/ลิตร KSS มองว่าการขึ้นภาษีสรรพสามิตไม่กระทบค่าการตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และไม่ทำให้กองทุนฯ เป็นบวกช้าลง

สรุป:

KSS ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ OR โดยเชื่อว่าธุรกิจ Mobility อยู่ในขาฟื้นตัวตามกำไรขั้นต้นต่อลิตร ที่ราคาน้ํามันดิบ normalized ส่งผลให้กองทุนน้ํามันทยอยกลับมาเป็นบวกภายใน Q1/26F ลดแรงกดดันต่อค่าการตลาดน้ํามัน หนุนให้กำไรปี 2568-2569 โตต่อเนื่อง +23% CAGR Vs. PER25F ราว 13-15 เท่า