บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SAT โชว์ผลงาน Q1/68 กำไร 189 ล้านบาท ท่ามกลางตลาดรถยนต์ผันผวน!
P/E 8.07 YIELD 10.56 ราคา 14.20 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ
SAT เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ทำกำไรสุทธิ 189 ล้านบาท แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาระดับการทำกำไรได้ดีจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
รายได้และกำไร
SAT มีรายได้จากการขายรวม 1,827 ล้านบาท ลดลง 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 189 ล้านบาท ลดลง 11.9% (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 1.1% (YoY) ปัจจัยที่ช่วยรักษาระดับกำไรคือ ยอดผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 349 ล้านบาท ลดลง 4.1% (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 4.6% (YoY) โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากชิ้นส่วนรถกระบะ 68%, ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร 24% และชิ้นส่วนรถยนต์นั่ง 8%
ปัจจัยภายนอกและภายใน
อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยไตรมาส 1/2568 มียอดผลิตประมาณ 350,000 คัน ลดลง 15% (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 4% (QoQ) โดยเป็นการผลิตเพื่อใช้ในประเทศ 33% และส่งออก 67%
การคลี่คลายของภัยแล้ง (EL NINO) เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร อย่างไรก็ตาม กระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังคงเป็นความท้าทายที่ SAT ต้องเผชิญ แม้ว่าชิ้นส่วนส่วนใหญ่จะใช้ได้กับรถยนต์ HEV และ PHEV แต่บริษัทก็มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับ EV
นอกจากนี้ นโยบายภาษีการค้าของสหรัฐฯ และ ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
ทรัพย์สินและหนี้สิน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 SAT และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 10,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2567 จำนวน 340 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 8,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189 ล้านบาท
สินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากเงินฝากธนาคารและรายการเทียบเท่าเงินสด ในขณะที่หนี้สินที่เพิ่มขึ้นมาจากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น ส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกำไรจากการดำเนินงาน
สรุป
SAT ยังคงรักษาผลการดำเนินงานได้ดีในไตรมาส 1/2568 แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผันผวน การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการปรับตัวเพื่อรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ SAT เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต