บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
FSSIA มอง NEO กำไร Q1/68 สดใส! คงราคาเป้าหมาย 49.50 บาท ชี้ P/E จูงใจ
P/E 7.93 YIELD 8.04 ราคา 16.80 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: FSSIA วิเคราะห์ NEO Corporate
FSSIA ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ของ NEO อาจดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง ต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/2568 และ NEO เป็นหุ้นที่เน้นตลาดในประเทศ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
รายละเอียดการวิเคราะห์: แนวโน้มผลประกอบการและปัจจัยสนับสนุน
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ของ NEO ที่ 245 ล้านบาท (+2% q-q, -8.4% y-y) ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า แม้ว่าราคาปาล์มน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/2567 (+25% q-q, +37% y-y) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในไตรมาส 1/2568 แต่ด้วยการเติบโตของรายได้ที่ต่อเนื่อง, การใช้กำลังการผลิตที่สูง และค่าเสื่อมราคาเพียง 10 วันจากโรงงานใหม่ FSSIA จึงคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ NEO จะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 42% จาก 42.8% ในไตรมาส 4/2567 (ยังคงอยู่ในเป้าหมายของ NEO ที่ 41-43%)
นอกจากนี้ FSSIA ยังคาดการณ์ว่ารายได้รวมในไตรมาส 1/2568 จะเติบโต 5% y-y แต่ลดลง 2.4% q-q เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาล แม้ว่าตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลโดยรวมในไตรมาส 1/2568 อาจลดลง y-y เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอลงและการขาดแคมเปญส่งเสริมการตลาดในอุตสาหกรรม แต่ NEO ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทาง Modern Trade ในประเทศ ในขณะเดียวกัน FSSIA คาดการณ์ว่ารายได้จากการส่งออกจะเติบโต 7% y-y เนื่องจากการฟื้นตัวในตลาดเวียดนาม แต่ลดลง 6% q-q เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาล อีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนผลกำไรในไตรมาส 1/2568 คือการคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายจะลดลง q-q เนื่องจากจะไม่มีการจัดแคมเปญการตลาดขนาดใหญ่ ส่งผลให้ SG&A ต่อการขายลดลงมาอยู่ที่ 30% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ 32%
ข้อสังเกต: โอกาสและความเสี่ยง
FSSIA คาดว่าแนวโน้มด้านต้นทุนจะเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป แม้ว่าจะมีการรับรู้ค่าเสื่อมราคาเต็มไตรมาสที่ประมาณ 22 ล้านบาท/ไตรมาส (หรือ 0.8% ของรายได้) แต่ก็จะถูกชดเชยด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงในไตรมาส 2/2568 โดยราคาปาล์มน้ำมันดิบลดลง 7% q-q ในไตรมาส 1/2568 FSSIA เชื่อว่าต้นทุนวัตถุดิบได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2568 นอกจากนี้ FSSIA ยังคาดการณ์ว่ารายได้จากเวียดนามจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 2/2568 เนื่องจาก NEO เริ่มรับรู้ยอดขายจากผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ในช่องทาง Modern Trade
อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงประมาณการกำไรปี 2568 อย่างอนุรักษ์นิยม เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันสอดคล้องกับการประมาณการของ FSSIA แม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ แต่ผลการดำเนินงานยังคงสม่ำเสมอและมีเสถียรภาพโดยไม่มีความผันผวนที่สำคัญ บริษัทถือเป็นหุ้นที่เน้นตลาดในประเทศ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และดำเนินงานในภาคสินค้าจำเป็น ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
สรุป: คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมาย
FSSIA คงราคาเป้าหมายของ NEO ที่ 49.50 บาท โดยมี Upside +80.0% จากราคาปิดล่าสุดที่ 27.50 บาท ราคาเป้าหมายนี้สูงกว่า Consensus ถึง 24.6% ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 2568 เพียง 8.5 เท่า และคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5% FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่า NEO เป็นหุ้นที่มี P/E ที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว