บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

เจาะลึกผลประกอบการ THANI ปี 2567: วิเคราะห์โอกาสและความท้าทาย พร้อมแนวโน้มปี 2568
P/E 11.91 YIELD 4.58 ราคา 1.53 (-1.29%)OK ครับ เริ่มเลย !!
เจาะลึกผลประกอบการ THANI ปี 2567: วิเคราะห์โอกาสและความท้าทาย พร้อมแนวโน้มปี 2568
- ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
THANI ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปี 2567 ไว้ที่ 18,500 ล้านบาท แต่ทำได้จริง 16,700 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้
ภาพรวมธุรกิจรถบรรทุกไม่ค่อยดีนัก ยอดขายลดลงเกือบ 40% โดยต้นปี 2568 ตัวเลขก็ยังไม่ดีขึ้น
NPL (หนี้เสีย) มีการขยับขึ้นตั้งแต่ต้นปี จนถึงไตรมาส 4 ที่บริษัทพยายามบริหารจัดการ จนตัวเลขมีแนวโน้มลดลง
ค่าใช้จ่าย Cost of Fund เพิ่มขึ้นเนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และปัญหาเรื่องหุ้นกู้ ทำให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มมากขึ้น
รถยึดมีปริมาณมาก ทั้งของบริษัทเองและในตลาด ทำให้ราคากลางขายทอดตลาดของรถยึดถูกกดดัน และมีการขาดทุนค่อนข้างมาก
ธุรกิจรถ Luxury Car ยังทรงตัว ไม่ได้มีประเด็นอะไรมาก
ธุรกิจรถบรรทุกมีความเกี่ยวข้องกับหลายส่วนภาค เช่น การส่งออกนำเข้า, อุปโภคบริโภค, การเกษตร, พลังงาน, ก่อสร้าง, และ Border Trade
ตัวเลขที่โดดเด่นมากที่สุดคืออุปโภคบริโภค เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 34-35 ล้านคน และปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 40 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้มีการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น และมีการใช้รถบรรทุกในส่วนที่เป็นรถตู้ทึบ, รถปรับอากาศ, รถตู้เย็น, ฯลฯ
ภาคการก่อสร้างยังคงแย่ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ตัวเลขยังไม่ดีขึ้น และยังคงทรุดลงอยู่เรื่อยๆ การเบิกจ่ายยังค่อนข้างน้อย ซึ่งกดดันรถบรรทุกที่เกี่ยวข้องในภาคก่อสร้าง
รถ Luxury Car มีความเสี่ยงจากการบังคับใช้กฎหมายกับรถที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา เช่น บ่อนพนันออนไลน์, การฟอกเงิน, ทำให้มีรถของบริษัทจำนวนหนึ่งถูกยึด (ประมาณ 20-30 คัน) โดยคดีเหล่านี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว
บริษัทพยายามบริหารจัดการและดูแลลูกค้าที่มีปัญหา โดยเฉพาะรายใหญ่ และปรับปรุงโครงสร้างต่างๆ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (SG&A) เพิ่มขึ้นจากการด้อยค่ารถยึดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อรถที่มีปัญหา ทั้งรถบรรทุกและรถเก๋ง
NPL เริ่มลดลงในไตรมาส 4 เนื่องจากบริษัทเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและพยายามปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ไปต่อได้
ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจยังคล้ายกับปลายปีที่ผ่านมา มีบางอย่างที่ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย เช่น นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ภาคการเกษตรคาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากไม่มีภัยแล้ง และผลผลิตภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น ทำให้มีการขนส่งมากขึ้น และเป็นผลดีต่อรถบรรทุก
ภาคพลังงานและการส่งออกยังทรงตัว
บริษัทตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อปีนี้ค่อนข้าง Conservative อยู่ที่ประมาณ 16,500 ล้านบาท หรือเดือนละ 1,300-1,400 ล้านบาท
บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณของรถบรรทุกเก่าที่เริ่มขายได้ และขายได้ค่อนข้างดีใน 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณรถยึดเริ่มลดลง
NPL ของ THANI ส่งสัญญาณมาค่อนข้างดี มีตัวเลขที่ลดลงต่อเนื่องกันมาเป็นเดือนที่ 4 แล้ว (ถึงเดือนกุมภาพันธ์)
ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยลง ซึ่งส่งสัญญาณดีในส่วนของ Cost of Fund ของบริษัท
บริษัททดสอบตลาดโดยการออก Bond และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มี Demand เข้ามามากกว่าที่ออกไปค่อนข้างมาก
คาดการณ์ว่าปัญหาทางด้าน Funding ค่อนข้างจะไม่มีปัญหาแล้ว และมีเงินสำรองเพียงพอในการปล่อยสินเชื่อ โดยการปล่อยสินเชื่อก็ไม่ได้ Aggressive มาก
ตลาดรถยึดมีรถหลายประเภท รถปิคอัพที่ถูกยึดในตลาดหมดไป ทำให้ราคารถปิคอัพกระเตื้องขึ้น
รถบรรทุกที่ Use มีการขายและการประมูลออกไปได้ค่อนข้างดี
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [00:18:47]
SG&A ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากค่าใช้จ่ายในการด้อยค่ารถยึด ซึ่ง Group ไว้เป็นค่าใช้จ่ายบริหารในงบการเงิน ในไตรมาส 4 มีจำนวนรถยึดเข้ามาเยอะจากสถานการณ์ที่จำเป็นต้องยึดและดำเนินการ
ในไตรมาส 1 หากมีการระบาย Stock รถยึดออกไป จะมี Reverse ค่าใช้จ่ายตรงนี้กลับมา ทำให้ภาพรวมของค่าใช้จ่ายตรงนี้ลดลงไป
ผลกระทบน้อยลงเพราะบริษัทได้ตั้งสำรองไปค่อนข้างจะเพียงพอแล้วในสินทรัพย์ส่วนที่รอการขาย และมียอดขายการขายค่อนข้างดีขึ้น คาดการณ์ว่าในไตรมาส 1 จะทำให้รถยึดและมูลค่าที่ตั้งสำรองไว้ค่อนข้างจะเพียงพอ และจะมีตัวเลขที่มีแนวโน้มลดลง
บริษัทยังไม่เห็นว่าดัชนีตัวรถบรรทุกมือสองของธนาคารแห่งประเทศไทยคืออะไร ยังไม่เคยเห็น
การตั้งสำรองของบริษัททำตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อมารองรับของปีนี้ด้วย โดยเฉพาะรถที่ส่วนที่เป็นรถยึด ซึ่งบริษัทตั้งไว้ค่อนข้างจะเพียงพอแล้ว
บริษัทได้มีการ Test ตลาดโดยการออก Bond ไปจำนวนไม่มาก แต่ก็มี Demand เข้ามาค่อนข้างเกินมา 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่อง Funding
สถาบันการเงินต่างๆ มา Offer หรือเพิ่มวงเงินให้ แต่ปีนี้ไม่มี Plan ที่จะต้องไปออก Bond หรืออะไรต่างๆ แต่ต้องรอดูตลาดนิดนึง
ถ้ามีโอกาสที่จะออก Bond ไปเพื่อลดต้นทุน หรือตัวเลขหรือดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง จะต้องรอดู แต่ปีนี้ยังไม่มี Plan ที่จะไปออก Bond
ยังอยู่ในระดับเดิมๆ ประมาณ 48,000 ล้านบาท ปีนี้
มีตัวเลข NPL ที่ลดลงติดต่อกันมา 4 เดือนแล้ว ส่งสัญญาณที่ดี บริษัทเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหา มีการปรับโครงสร้าง มีการเข้าไปดูแลค่อนข้างใกล้ชิด ทั้งลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่ ที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง
ได้แก้ปัญหาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้ก็แก้ปัญหากันไปค่อนข้างเยอะ ทำให้ปีนี้ปัญหาเหล่านี้ค่อยๆ คลี่คลายลง และลูกค้าเริ่มมายืนด้วยตัวเองได้
ปีที่แล้วมีการขายขาดทุนรถยึดเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างสูง ขึ้นไปถึงประมาณ 30-31% โดยเฉลี่ยของ THANI จะอยู่ที่ระดับประมาณ 20% เท่านั้น
2 เดือนที่ผ่านมาตัวเลขก็ดูดีขึ้น ลดลงมาเล็กน้อย น่าจะอยู่ระดับประมาณ 25%
ปริมาณรถยึดของรถบรรทุกยังมีค่อนข้างมาก ของบริษัทมีไม่มาก มีอยู่ประมาณ 700 คัน ส่วนที่เหลือเป็นของ Finance อื่น
บริษัทเริ่มขายได้ค่อนข้างดี ขายตรงไปที่ลูกค้า มี Website ของตัวเอง และพยายามจะช่วยกันขาย ส่วนหนึ่งก็ยังขึ้นประมูลอยู่
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขการขายรถยึดทำได้ค่อนข้างดีมาก และคาดว่าในไตรมาส 1 นี้ จะมีรถยึดที่ขายออกไปได้ค่อนข้างมาก และจะทำให้ Stock รถยึดลดลง ส่วนเปอร์เซ็นต์การขาดทุนก็เริ่มเห็นว่ามีแนวโน้มในการลดลง
คาดการณ์ว่าน่าจะใกล้เคียงเดิม เนื่องจากพอ Port สินเชื่อหดตัวลง ทำให้ตัว Yield บางลง ในขณะเดียวกัน Cost of Fund ยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิมกับปีก่อน
NIM อาจจะมีหล่นลงไปอยู่ประมาณ 3 ปลายๆ (3.6-3.7) และจะพยายามให้ทรง ไม่ให้หล่นไปมากกว่านี้
ถ้าในไตรมาส 2-3 สามารถขยับ Port สินเชื่อ และ Yield ของรถบรรทุกเก่าที่ได้ Yield ค่อนข้างสูง อาจจะทำให้สถานการณ์ NIM ดีขึ้น
ปัจจัยบวกมีอย่างเดียวคือคู่แข่งในตลาดค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย
บริษัทพยายามจะปล่อยสินเชื่อโดยดูจากเศรษฐกิจภาพโดยรวม และลูกค้าที่เข้ามาขอสินเชื่อว่ามีงานมีการอะไรจริง
ยังไม่ได้ถึงกับบุก แต่เพียงแต่เตรียมตัวไว้ค่อนข้างพร้อม ขอรอดูสัญญาณอีกสักไตรมาส 1-2 ว่าสัญญาณออกมาเป็นยังไง
ตอนนี้ยอดขายรถบรรทุกยัง Focus อยู่ที่รถบรรทุกเก่า รถบรรทุกใหม่ตัวเลขค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นการขยายสินเชื่อในช่วงนี้ก็ยังเป็นไปด้วยความระมัดระวัง
ขอดูตัวเลขผลประกอบการ หรือ Quick NPL ในช่วงไตรมาส 1-2 และคงจะต้องมาตัดสินใจอีกทีว่าจะบุกตลาดในไตรมาส 3-4 ที่เหลือหรือไม่ ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะไปโตแรงๆ ใน Q3-Q4 ของปีนี้
ภาคก่อสร้างลากยาวมา 2-3 ปีแล้ว และปีนี้ก็ยังไม่คิดว่าจะดีขึ้น รถที่ยึดเข้ามาและขายขาดทุนมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถที่อยู่ในภาคก่อสร้าง คือรถดั้มดิน
ในภาคก่อสร้างนี้ ทั้งเอกชนและภาครัฐ ดูไม่ดีทั้งคู่ ก็เลยยิ่งดึงกันไปใหญ่
ยังไม่เห็นว่าการก่อสร้างจะกลับมาดีขึ้น ตอนนี้ก็ดูยังติดลบอยู่ และยังดูลงอยู่เรื่อยๆ
ยังมองเชิงบวก มี Surprise ไป 1 ครั้ง ตอนนี้ก็ทำให้ต้นทุนทางด้าน Funding ทางด้านระยะยาวอย่างทรงๆ อยู่ แต่ระยะสั้นเริ่มเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะลดลง
ตัวเลขที่ตั้งไว้ที่ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 3.2 เราอาจจะทำได้ต่ำกว่านั้น ก็ยังมองบวกอยู่
ตอนนี้ทำจำนำทะเบียนไปอยู่ที่ระดับประมาณใกล้ๆ 1,000 ล้านบาท ตัว NPL ค่อนข้างดี ไม่ถึง 1%
ยังไม่ได้บุกออกไปนอกบริษัท ยังพยายามทำจำนำทะเบียนอยู่ในกลุ่มของลูกค้าภายในของราชธานีเอง ประมาณ 3-4 หมื่นราย ที่มีอยู่
ตลาดจำนำทะเบียนค่อนข้างแข่งขันกันค่อนข้างสูงด้านนอก
ตอนนี้ยอดน่าตกใจมาก ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์นี้ โดยเฉพาะรถบรรทุกใหม่ หายไปค่อนข้างค่อนข้างมาก
เฉลี่ยของปีที่แล้ว 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่มกราคม-กุมภาพันธ์มานี้ก็ดาวน์ลงไปถึง 50%
ต้องรอให้รถบรรทุกที่อยู่รถยึด ขายออกไปก่อน คนถึงจะไปซื้อรถใหม่ เพราะตอนนี้คนที่จะไปซื้อรถบรรทุกใหม่ หรือมีการลงทุนใหม่ๆ ในการที่จะไปซื้อรถก็ยังมี มีสิทธิ์เลือกที่จะไปซื้อลงทุนรถเก่า หรือจะไปซื้อรถใหม่
ตอนนี้ตัวเลข Revers ยึดเข้ามาน้อยกว่าที่เราขายออกไป อันนี้ก็เป็นเป็นเชิงบวก บริหาร Stock รถยึดได้ปีนี้ค่อนข้างดี และน่าจะ กลับไปสู่ปกติได้สักไตรมาส 3-4
หลักๆ แล้วเกิดจากในส่วนของตัวรถยึด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในด้อยค่ารถยึดที่ Group ไว้ในส่วนของตัวค่าใช้จ่ายบริหาร ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมามีในส่วนของตัวด้อยค่ารถยึดเพิ่มเติมขึ้นจากไตรมาส 3
ถ้ามีในส่วนของการขายรถยึดระบาย Stock ออกไป Amount ของการตั้งด้อยค่าตรงนี้ก็จะลดลงไปด้วย แล้วก็จะได้ Reverse ค่าใช้จ่ายตรงนี้กลับมาในในเดือนนั้นๆ
Stock รถยึดในส่วนที่เป็นรถบรรทุกประมาณ 700 คัน ช่วงนี้ยึดมาอยู่ในระดับประมาณสัก 100 ต้นๆ แต่ขายได้เดือนเฉลี่ยประมาณสัก 140-150 คัน
Stock รถยึดตอนนี้ค่อนข้างจะไม่น่าจะมีปัญหา และค่อยๆ ระบายออกไป เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
New Loan คาดการณ์ว่าจะปล่อยใหม่ใกล้เคียงเดิมกับปี 2566 ที่ผ่านมา น่าจะไม่เกินประมาณ 17,000 ล้านบาท
Ending Port คาดการณ์ว่าจะจบอยู่ประมาณ 45,000 ถึง 46,000 ล้านบาท อาจถ้าเกิดว่าปลายปีเร่งยอดแล้วก็สถานการณ์ตัว ตลาดกลับมา ก็อาจจะมีได้เห็นตัวเลขประมาณ 47,000 ล้านบาท
Credit Cost คิดว่ายังอาจจะยังคงทรงๆ กับปีนี้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสำรองที่ตั้ง ECL ในแต่ละเดือน ในขณะเดียวกันมีในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ตัดหนี้สูญไปด้วย
NPL Ratio คาดการณ์ว่าน่าจะจบอยู่ประมาณ ตัวเลขที่ทำไว้เบื้องต้นประมาณ 3.2 แต่เราคิดว่าถ้าปลายปีเรา ณ จากนี้เป็นต้นไป เราบริหารจัดการได้ดี เราอาจจะได้เห็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 3
หากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ บริษัทคาดหวังว่าจะได้เห็นตัว ROE ของปัว เป็นปกติอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ นะคะ ซึ่งจริง ๆ เรา ต้องขออนุญาต คุณ โกวิทย์ นะคะ ก็ ในส่วนของ ตัว ROE นะคะ เราก็ เคย จบ อยู่ ที่ ประมาณ 10 กว่า นะคะ ก็ ทั้งนี้ เนี่ย เนื่อง จาก ว่า สถานการณ์ ที่ ผ่าน มา เนี่ย กำไร เรา น้อย ลง เนื่อง จาก ว่า สถานการณ์ ตลาด นะคะ ก็ เลย ทำ ให้ ใน ส่วน ของ ตัว ROE เรา นะคะ ก็ จาก ที่ เคย 15 14 นะคะ ก็ เ เอ่อ ลด ระดับ ลง มา เรื่อย ๆ อยู่ ที่ ประมาณ 10% แล้ว ก็ ปี 66 ปี อยู่ ประมาณ 6 นะคะ เรา คาด การณ์ ว่า ถ้า สามารถ กลับ ไป เป็น ปกติ ได้ เรา ก็ จะ ไต่ ระดับ ไป อยู่ ที่ ประมาณ 12 13 14 ได้ นะคะ แต่ นี้ อยู่ ที่ สถานการณ์ ของ เอ่อ ตัว ตลาด เอ่อ สิน เชื่อ แล้ว ก็ คุณภาพ แล้ว ก็ ความ สามารถ ใน การ ชำระ หนี้ ของ ลูก หนี้ นะคะ
น้อยนะคะ ไม่ ค่อย ไม่ ค่อย มี ครับ รถหรู ก็ ค่อนข้าง น้อย นะ ครับ มี อยู่ แค่ 10 กว่า คัน ครับ
ยัง ทรง ๆ นะ ครับ ไม่ มี ยัง ไม่ ค่อย มี โกรส เท่า ไร นะ ครับ เรา ยัง ปล่อย ค่อนข้าง จะ ค่อนข้าง น้อย นะ ครับ ค่อนข้าง ยัง ยัง เลือก ลูก ค้า อยู่ นะ ครับ ยัง ไม่ กล้า ที่ จะ บุก มาก นะ ครับ
ก็ ต้อง บอก ว่า เอ่อ ลูก หนี้ ที่ เรา ไลท์ ออฟ ไป เนี่ย เอ่อ ไม่ ได้ ไลท์ ออฟ แล้ว ทิ้ง ไป เลย นะ คะ เนื่อง จาก ว่า เรา ไลท์ ออฟ เนี่ย เพื่อ เอ่อ exercise แทค แล้ว ก็ ใช้ สิทธิ ประโยชน์ ทาง ภาษี ให้ ตรง กับ ปี ภาษี นะ คะ แต่ ใน คดี เดียว กัน เนี่ย ลูก หนี้ ทั้ง หมด ที่ ไลท์ ออฟ ไป เนี่ย ยัง อยู่ ยัง อยู่ ใน กระบวน การ ของ ทีม งาน กฎ หมาย นะ คะ ก็ ซึ่ง เรา จะ มี การ ใน ส่วน ของ ตัว รอ คำ พิพากษา เอ่อ ก็ ตาม หนี้ ต่อ เอ่อ ไป สู่ กระบวน การ ตาม หนี้ หรือ ว่า ท้าย ที่ สุด แล้ว ตาม หนี้ ไม่ ได้ เรา ก็ จะ มี กระบวน การ ยึด ทรัพย์ ต่อ อะไร ตอน นี้ เรา ก็ ยัง ยัง ทำ อยู่ นะ คะ ยัง ทำ อยู่ เพราะ ฉะนั้น เนี่ย เอ่อ เรา จะ ได้ รีคัฟเวอรี ตรง เนี้ย กลับ มา นะ คะ เป็น ใน ส่วน ของ ว่า เรา อยู่ ที่ หน้า งบ เนี่ย เรา จะ กรุ๊ป เป็น ราย ได้ อื่น ตาม หน้า งบ การ เงิน นะ คะ ก็ เรา มี ทีม พิเศษ ที่ มา ดู ใน ส่วน ของ ตัว ลูก หนี้ ที่ ไลท์ ออฟ ไป แล้ว เพิ่ม เติม ตรง นี้ นะ คะ
โดยสรุป THANI เผชิญกับความท้าทายในธุรกิจรถบรรทุก แต่ก็มีโอกาสในภาคอุปโภคบริโภคและการเกษตร บริษัทพยายามแก้ไขปัญหาและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ โดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต