NSL Foods (NSL) กำไรปี 67 นิวไฮ! หยวนต้าคาดปี 68 โตต่อเนื่อง คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 39.50 บาท

P/E 11.77 YIELD 3.77 ราคา 23.90 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: กำไร Q4/67 ทำนิวไฮต่อเนื่อง หนุนกำไรทั้งปีโต 62.2%

NSL Foods รายงานกำไรปกติใน 4Q67 ที่ 147 ล้านบาท (+9.1% QoQ, +43.6% YoY) ทำนิวไฮต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2567 อยู่ที่ 541 ล้านบาท (+62.2% YoY) ทำนิวไฮใกล้เคียงกับที่หยวนต้าคาดการณ์ไว้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2H67 ที่ 0.55 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.Yield ที่ 1.9% ขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 2568 และจ่ายวันที่ 16 พ.ค. 2568

ผลประกอบการ: รายได้รวมโตเด่น หนุนจาก High Season และการขยายธุรกิจ

รายได้รวมใน 4Q67 อยู่ที่ 1,651 ล้านบาท (+15.3% QoQ, +23.8% YoY) หนุนจากการเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจ ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้น หนุนอัตราการเข้าใช้บริการร้านสะดวกซื้อ รวมถึงการรับรู้ผลของการเปิดใช้คลังสินค้าใหม่สำหรับกลุ่ม Food Services เต็มไตรมาส แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่ยังสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง

แนวโน้ม: คาดกำไร Q1/68 โตต่อเนื่อง YoY จากยอดขายที่แข็งแกร่งและการส่งออก

หยวนต้าคาดการณ์ว่ากำไรใน 1Q68 อาจลดลง QoQ จากการผ่านพ้นช่วง High season แต่มองว่าจะยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง YoY หนุนจาก 1) ยอดขายของธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าให้ 7-Eleven ที่ยังเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขาและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2) ยอดขายธุรกิจ Food service ที่เติบโตเด่นจากการเปิดคลังสินค้าใหม่ 3) การเริ่มรับรู้รายได้จากการเริ่มส่งออกแบรนด์ Just Cool และ COCO Cool ไปยังต่างประเทศ และ 4) การเริ่มส่งออก “ข้าวแท่ง” ไปยุโรปในช่วงปลายเดือน ก.พ.

อย่างไรก็ตาม หยวนต้าคาดว่า GPM ใน 1Q68 จะลดลงเล็กน้อยที่ระดับไม่ต่ำกว่า 20% จาก U-rate ที่ปรับตัวลง รวมถึง Product Mix ที่ถูกกดดันจากการเติบโตของสินค้าใหม่ในกลุ่มน้ำมะพร้าวที่มีอัตรากำไรต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสินค้ากลุ่มอื่นๆ

คำแนะนำ: คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายใหม่ 39.50 บาท

หยวนต้ายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 583 ล้านบาท (+7.8% YoY) ทำนิวไฮต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปรับลด PE ในการประเมินมูลค่าลงเหลือ 20.0 เท่า เพื่อสะท้อนภาวะตลาด ส่งผลให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 39.50 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER25 ที่ 14.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ระดับ 20.0 เท่า จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสในการเข้าสะสม

โพสต์ล่าสุด