https://aio.panphol.com/assets/images/community/1916_9C34A5.png

บทสรุปผลประกอบการหุ้น KAMART ปี 2567: โตเด่นจากยอดขายและการบริหารจัดการ

P/E 16.39 YIELD 4.56 ราคา 8.75 (0.00%)

บทความนี้สรุปผลประกอบการของบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ในปี 2567 โดยอ้างอิงข้อมูลจากหนังสือชี้แจงสาเหตุที่บริษัทมีกำไร (ขาดทุน) หรือรายได้รวมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนเกินกว่าร้อยละ 20 (ลส 003/68) ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568.

ภาพรวมผลประกอบการปี 2567

KAMART รายงานรายได้รวมอยู่ที่ 3,203.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 30.89% คิดเป็นจำนวน 756.06 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 677.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.57% หรือ 17.00 ล้านบาท แม้ว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นไม่มากเท่ารายได้รวม แต่ก็ยังแสดงถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต

  • รายได้จากการขายและบริการ: ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตคือรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น 31.30% หรือ 750.64 ล้านบาท คิดเป็น 3,147.96 ล้านบาท
  • รายได้จากการให้บริการคลังสินค้า: มีรายได้ 26.15 ล้านบาท
  • รายได้อื่น ๆ: เพิ่มขึ้น 23.26% หรือ 5.62 ล้านบาท คิดเป็น 29.78 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการบริหารงานและให้เช่าแก่บริษัทร่วมค้า รวมถึงเงินปันผลรับ

การวิเคราะห์ต้นทุนและค่าใช้จ่าย

  • ต้นทุนขาย: เพิ่มขึ้น 27.41% หรือ 314.90 ล้านบาท คิดเป็น 1,463.58 ล้านบาท สอดคล้องกับการเติบโตของยอดขาย
  • ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร: เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 38% หรือ 239.66 ล้านบาท คิดเป็น 870.38 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย (51.47%) ซึ่งประกอบด้วย ค่าส่งเสริมการขาย, ค่าโฆษณา, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายบริหารที่เพิ่มขึ้น (19.19%) จากค่าดำเนินการร่วมกัน, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

รายการพิเศษที่มีผลต่อกำไร

  • ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุน: รายการนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกำไรสุทธิ โดยเพิ่มขึ้นถึง 192.21% หรือ 162.46 ล้านบาท คิดเป็น 77.94 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นที่บริษัทถือครอง แต่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
  • กำไรจากการขายเงินลงทุน: เพิ่มขึ้น 152.81% หรือ 11.69 ล้านบาท คิดเป็น 19.34 ล้านบาท
  • กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน: เพิ่มขึ้น 36.43 ล้านบาท คิดเป็น 39.57 ล้านบาท เนื่องจากการทำสัญญาเช่าใหม่และการประเมินราคาใหม่
  • ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วม: เพิ่มขึ้น 56.81 ล้านบาท คิดเป็น 6.49 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทร่วมค้าและบริษัทร่วม
  • รายได้ทางการเงิน: เพิ่มขึ้น 283.58% หรือ 21.24 ล้านบาท คิดเป็น 28.73 ล้านบาท เนื่องจากการมีเงินสดจำนวนมากจากการเพิ่มทุน ทำให้มีดอกเบี้ยรับมากขึ้น

การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลอัตราส่วนทางการเงินโดยตรง แต่จากข้อมูลที่ให้มา เราสามารถอนุมานได้ดังนี้:

  • อัตรากำไรขั้นต้น: น่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นมากกว่าต้นทุนขาย
  • อัตรากำไรสุทธิ: อาจลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร รวมถึงผลกระทบจากขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุน
  • อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E): ไม่สามารถวิเคราะห์ได้จากข้อมูลที่ให้มา

สรุปและแนวโน้ม

KAMART ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2567 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและบริการ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร รวมถึงผลกระทบจากรายการพิเศษบางรายการ ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่า

ภาพรวมที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย:
KAMART เหมือนนักวิ่งที่วิ่งได้เร็วขึ้น (รายได้เพิ่ม) แต่ก็ต้องจ่ายค่ารองเท้า (ต้นทุนขาย) และค่าโค้ช (ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร) มากขึ้นด้วย ทำให้ถึงเส้นชัยได้เร็วขึ้น แต่กำไร (เหมือนเงินรางวัล) อาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของโชคช่วย (กำไรจากการขายเงินลงทุน) และโชคร้าย (ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ภาพรวมซับซ้อนขึ้น

คำแนะนำเพิ่มเติมและข้อจำกัด

คำแนะนำเพิ่มเติม:
เพื่อให้การวิเคราะห์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ควรพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น งบแสดงฐานะการเงิน งบกระแสเงินสด รวมถึงการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก เช่น สภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขัน และพฤติกรรมผู้บริโภค

ข้อจำกัด:
บทความนี้เป็นการสรุปและวิเคราะห์จากข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น อาจมีข้อจำกัดในการตีความเนื่องจากขาดข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ

โพสต์ล่าสุด