บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA ชี้ NEO เป็นหุ้น Turnaround คาดกำไร Q4/25 ฟื้นตัวเด่น

FSSIA ประเมิน NEO Corporate เป็นหุ้น Turnaround ที่น่าสนใจ โดยคาดการณ์กำไรในไตรมาส 4/25 จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยหนุนหลักมาจากรายได้ที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ และการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ราคาปาล์มน้ำมันดิบ (Palm oil) ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม ถือเป็นสัญญาณบวกต่อต้นทุนการผลิตของบริษัท

คาดการณ์รายได้ Q4/25 เติบโตสองหลัก หนุนโดยปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ

FSSIA คาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4/25 จะเติบโตในอัตราเลขสองหลักทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (q-q) และปีต่อปี (y-y) โดยมีประมาณการเบื้องต้นที่ 2.92 พันล้านบาท (+11.4% q-q, +10.0% y-y) ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตมาจาก:

• การเติบโตของรายได้ในประเทศอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านฤดูกาลและโครงการภาครัฐ
• การฟื้นตัวของรายได้จากการส่งออก ซึ่งโดยปกติแล้วเวียดนามและลาว (ตลาดส่งออกหลักของ NEO) จะเข้าสู่ช่วง High Season ในช่วงปลายปี

ราคา CPKO ที่ลดลง ช่วยลดความกังวลด้านต้นทุน

ราคา Crude Palm Kernel Oil (CPKO) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 6,915 MYR/tonne (-11.1% m-m, -16.5% y-y) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หากราคา CPKO ยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นผลดีต่อต้นทุนการผลิตของ NEO ในช่วงปลายไตรมาส 1/26 อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจากบริษัทได้สำรองสินค้าคงคลังไว้ล่วงหน้าในราคาสูง

คงประมาณการกำไรปี 2569 เติบโต 28.6% คงราคาเป้าหมาย 27 บาท

FSSIA ยังคงมุมมองเดิมว่าไตรมาส 3/25 เป็นจุดต่ำสุดของผลประกอบการในปีนี้ และคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 4/25 จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ 100 ล้านบาท (+70% q-q) แม้ว่าจะยังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (y-y) ก็ตาม การฟื้นตัวนี้มีปัจจัยขับเคลื่อนจากรายได้ที่เติบโตขึ้น และการประหยัดต่อขนาด (Operating Leverage) ที่ช่วยลดสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ให้เข้าใกล้เป้าหมาย 32%
FSSIA คงราคาเป้าหมายของ NEO ที่ 27.00 บาท โดยมองว่า NEO เป็นหุ้น Turnaround ที่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรสุทธิ 28.6% y-y ในปี 2569 นอกจากนี้ NEO ยังได้รับ SET ESG Rating ระดับ "A" ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน