เจาะลึกผลประกอบการ SJWD Q3/2568: โอกาสและความท้าทายในโลก Logistics ที่ผันผวน

P/E 11.72 YIELD 3.96 ราคา 7.20 (0.00%)

เจาะลึกผลประกอบการ SJWD Q3/2568: โอกาสและความท้าทายในโลก Logistics ที่ผันผวน

สวัสดีครับพี่ๆ นักลงทุนทุกท่าน วันนี้เป็นการประกาศผลประกอบการ Opportunity Day Q3 ปี 2568 ของบริษัท SCGJWD ครับ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

SCGJWD เผชิญทั้งผลกระทบเชิงบวกและลบใน Q3/2568 ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ปัจจัยภายนอก เช่น สภาวะเศรษฐกิจ สภาวะแวดล้อมทางอุตสาหกรรมของลูกค้า และอุตสาหกรรม Logistics เอง มีความผันผวนและความท้าทายสูง

  • รายได้รวม: 6,252.5 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ: 257.8 ล้านบาท (เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว)
  • รายได้ YTD: 19,128.9 ล้านบาท (เติบโต 4.1%)
  • กำไรสุทธิ YTD: 905.8 ล้านบาท (เติบโต 52.4%)

บริษัทสามารถ Maintain ผลประกอบการในระดับสูงและมีการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้วได้ แม้ว่า Q3 จะเป็นช่วง Low Season ของหลายอุตสาหกรรมที่บริษัทดูแลอยู่

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในหลายธุรกิจ:

  1. General Warehouse: เติบโต 25.2%
  2. Food & Cold Chain: เติบโต 11.6%
  3. Overseas: เติบโต 9.8%
  4. Relocation: เติบโต 34.8%
  5. Multimodal Transportation: เติบโต 9.7%
  6. Logistics Infrastructure: เติบโต 52.7%

บริษัทมีแผนที่จะเพิ่ม Transportation Share ในกลุ่มสินค้า Commodity และขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนและจีนตอนใต้

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

บริษัทเผชิญความเสี่ยงจาก:

  • ความผันผวนของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
  • การแข่งขันในอุตสาหกรรม Logistics ที่สูง
  • อัตราค่า Freight ที่กำลังย่อตัวลง
  • การปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา (กระทบ Cross-Border Transportation)

บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาด

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทมีแผนในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:

  • ควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนอย่างรัดกุม
  • พัฒนา Gross Profit Margin อย่างต่อเนื่อง
  • ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A)
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (Optimize Operations) โดยใช้เทคโนโลยีและ AI
  • Diversify ธุรกิจไปยังกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตผ่าน 5 Pillars หลัก:

  1. ขยายไปยัง Regional
  2. สร้าง Synergy ในกลุ่มเพิ่มเติม
  3. สร้าง Convenience และ Product ใหม่ๆ
  4. เจาะกลุ่มตลาด Consumer
  5. Tab เข้าไปใน New Business (Property Development)

บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการทำ Digital และ Innovation, Green Logistics, Sustainability และ ESG อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายงานด้าน Inorganic Growth เพื่อให้เติบโตได้ตามแผน

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้น นาทีที่ 49:20

Q: ผลกระทบจากการชะลอตัวของธุรกิจขนส่งสินค้า B2B และการปิดพรมแดนไทย-กัมพูชาในไตรมาสที่ 3 มีผลกระทบไปถึง Q4 อย่างไรบ้าง บริษัทมีมาตรการอย่างไรในการรับมือเรื่องนี้

A: รายได้ YoY ตัว Cross Border ลดลงใน Q3 ค่อนข้างเยอะ แต่ Q1 และ Q2 เติบโต มีการชดเชยในแง่ของการขนส่งทางเรือ ทางชายฝั่งเพิ่มเติม ตัว Low Season ของหน้าฝนเป็นรายได้ค่อนข้างที่เป็นกลุ่มใหญ่ของการขนส่งของบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 50% บริษัทใช้การเพิ่มยอดในแง่ของตัวธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นห้องเย็น ยานยนต์ ธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ในพอร์ตของบริษัท โดยเฉพาะ Overseas ที่ปีนี้โตขึ้นมาเกิน 100% ซึ่งจะผลักดันในเรื่องนี้เพิ่มเติม เพื่อที่จะตัดในเรื่องของตัว Seasonality ใน Q3 ออกไป

Q: ธุรกิจเรือ Barge และงานรับฝากยานยนต์ที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 เรามีแผนที่จะลงทุนอะไรเพิ่มเติมไหมครับ เพื่อรองรับการเติบโตนี้

A:

  • Automotive: มีต่อเนื่องมาเรื่องการลงทุนคือ Yard แห่งที่ 2 ของ BYD ข้างโรงงาน คาดว่าจะเสร็จได้ประมาณไม่เกิน Q2 ปีหน้า เพื่อรองรับการผลิตที่ BYD ผลิตคืน คืนทางรัฐ ซึ่งยังผลิตออกมาต่อเนื่อง ส่วนในเรื่องของตัวห้องเย็น ไม่ได้ขยายตัวเพิ่ม

โพสต์ล่าสุด