บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SAT กำไร Q3/68 พุ่ง! InnovestX ชี้ อัตรากำไรขั้นต้นแกร่ง-ภาษีต่ำหนุน
P/E 8.07 YIELD 10.56 ราคา 14.20 (0.00%)
text-primary InnovestX ยังคงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ SAT พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 13 บาท อิง PE 7.5 เท่า
text-primary ไฮไลท์สำคัญ: กำไร Q3/68 โตเกินคาด
SAT หรือ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี รายงานกำไรสุทธิ Q3/68 ที่ 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY และ 31% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 15% ปัจจัยหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งขึ้นและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภาษีที่ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ
text-primary ผลการดำเนินงาน Q3/68: รายละเอียดเชิงลึก
ยอดขายรวมอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 10% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2% QoQ โดยยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ OEM ลดลง 8% YoY เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังคงtext-danger อ่อนแอ แต่ได้แรงหนุนจากปัจจัยด้านฤดูกาลที่ทำให้เพิ่มขึ้น 3% QoQ ขณะที่ยอดขายชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร OEM ลดลง 19% YoY และ 3% QoQ สะท้อนถึงอุปสงค์ที่text-danger ลดลงจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ลดลง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวtext-primary ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาอยู่ที่ 18.8% จาก 17.2% ใน Q3/67 และ 17.1% ใน Q2/68 ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายภาษีที่ต่ำเพียง 3 ล้านบาท ลดลงถึง 90% YoY และ 73% QoQ ส่งผลให้อัตราภาษีที่แท้จริงอยู่ที่ระดับ 2% เท่านั้น
text-primary ข้อสังเกตและการประเมินมูลค่า
InnovestX ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ของ SAT ไว้เช่นเดิม โดยคาดว่าจะtext-danger ลดลง YoY เนื่องจากค่าใช้จ่ายภาษีที่กลับสู่ระดับปกติ และtext-danger ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ ได้มีการเปลี่ยนฐานที่ใช้ประเมินมูลค่าเป็นกลางปี 2569 ทำให้ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มขึ้นเป็น 13 บาท (จากเดิม 12.5 บาท ณ สิ้นปี 2568) อ้างอิง PE 7.5 เท่า ซึ่งเท่ากับระดับ -1SD ของ PE เฉลี่ยในอดีต
text-primary สรุปและคำแนะนำ
InnovestX ยังคงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ SAT โดยมองว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 6% สำหรับผลการดำเนินงานงวด 2H68 และ 9% สำหรับปี 2569 เป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด downside ของราคาหุ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่บริษัทจะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลเมื่อพิจารณาจากสถานะเงินสดสุทธิและรายจ่ายลงทุนที่น่าจะอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ ยอดผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรที่อ่อนแอ และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น