บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

OR โชว์ผลงานไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิ 2,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.1% จากไตรมาสก่อนหน้า แม้รายได้รวมจะลดลง 12.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

รายได้และกำไร:

OR รายงานรายได้ขายและบริการรวม 153,600 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Mobility และ Global อย่างไรก็ตาม EBITDA เพิ่มขึ้น 7.2% เป็น 4,878 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้า และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17.1% เป็น 2,614 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.22 บาท

สำหรับผลประกอบการสะสม 9 เดือน OR มีรายได้ขายและบริการ 503,188 ล้านบาท ลดลง 6.5% แต่ EBITDA เพิ่มขึ้น 24.5% เป็น 15,914 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 98.4% เป็น 9,226 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.77 บาท

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงคือ รายได้ที่ลดลงจากทุกกลุ่มธุรกิจ แต่ EBITDA ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจ Mobility และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นได้รับผลกระทบเชิงบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ทรงตัวและผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์

ข้อสังเกต:

แม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากภาคการท่องเที่ยว แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 70.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

OR มีการขยายสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า "EV Station PluZ" อย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจดิจิทัลและการทำ Digital Transformation โดยมีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน blueplus+ โฉมใหม่ นอกจากนี้ ยังริเริ่มโครงการ "ไทยเด็ด" เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน

สรุป:

OR มีผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ที่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่ารายได้จะลดลง แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินงานในอนาคต