บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

MST (Maybank Securities Thailand) ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น TLI (Thai Life Insurance) พร้อมคงราคาเป้าหมายที่ 16 บาท มอง TLI รับประโยชน์จากการปฏิรูประบบค่ารักษาพยาบาล และมีกำไรคงเหลือในสัญญาสูงถึง 9 หมื่นล้านบาท หนุนกำไรเติบโตต่อเนื่อง

แนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง

MST คาดการณ์กำไรหลักของ TLI จะเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 10% ในช่วงปี 2567-2570 โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของเบี้ยประกันใหม่ (APE) 10% CAGR, อัตราการเคลมที่ลดลง และรายได้จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4% ต่อปี นอกจากนี้ TLI ยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 6% ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาค และมีโอกาสจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากระดับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ที่แข็งแกร่งมากกว่า 500%

มาตรการควบคุมค่ารักษาพยาบาลหนุนกำไร

MST มองว่าแนวโน้มอัตราการเคลมค่ารักษาพยาบาลอาจต่ำกว่าที่ TLI ประเมินไว้ เนื่องจากรัฐบาลเดินหน้าควบคุมต้นทุนการรักษา โดยกระทรวงพาณิชย์เพิ่งออกมาตรการให้โรงพยาบาลเอกชนต้องเปิดเผยราคายา และให้ผู้ป่วยสามารถซื้อยาจากภายนอกโรงพยาบาลได้ รวมถึงเตรียมควบคุมราคาวัสดุทางการแพทย์พื้นฐาน มาตรการเหล่านี้คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพได้กว่า 3.2 หมื่นล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ นโยบายร่วมจ่าย (Co-pay) ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นปีจะช่วยลดการเคลมเกินความจำเป็นลงอีกด้วย โดย MST ประเมินทุกการลดลงของเคลมค่ารักษา 5% จะช่วยเพิ่มกำไรหลักประมาณ 2.5%

CSM แข็งแกร่งหนุนกำไรในอนาคต

แม้ว่ายอดเบี้ยประกันใหม่ (APE) เดือนสิงหาคม 2568 จะลดลง 1% YoY แต่ APE ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 ยังเติบโตtext-primary แข็งแกร่งถึง 29% YoY สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ +7% อย่างมาก อีกทั้ง TLI ยังมี CSM มูลค่า 9 หมื่นล้านบาทซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ต่อเนื่องอีก 7–8 ปี MST จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2568-2570 ของ TLI ราว 4–5%

สรุป

MST ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น TLI โดยมีราคาเป้าหมายที่ 16 บาท ด้วยเหตุผลหลักคือ TLI จะได้รับอานิสงส์จากการปฏิรูประบบค่ารักษาพยาบาลของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยลดภาระการเคลมค่ารักษาพยาบาล และ TLI มี CSM หรือกำไรคงเหลือในสัญญาสูงถึง 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับกำไรในระยะยาว นอกจากนี้ TLI ยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าดึงดูดใจ และมีโอกาสจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นในอนาคต