บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (BYD) เผชิญภาวะขาดทุนสุทธิอย่างหนักในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2568 แม้รายได้จะเติบโต แต่ถูกฉุดด้วยการตั้งสำรองหนี้เสียจำนวนมหาศาล

ผลประกอบการ:

ถึงแม้ BYD จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 22.39% ในไตรมาส 2 และ 30.49% ในช่วง 6 เดือนแรก แต่กลับต้องเผชิญกับการขาดทุนสุทธิถึง 2,427.55 ล้านบาทในไตรมาส 2 และ 2,668.48 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายและการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จำนวนมากถึง 2,579.09 ล้านบาทในไตรมาส 2

ธุรกิจหลักทรัพย์ของ BYD มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 0.72% และขึ้นเป็นอันดับ 3 ในธุรกิจค้าตราสารหนี้ตลาดรอง

ข้อสังเกต:

การตั้งสำรองหนี้เสียจำนวนมาก ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทร่วมทางอ้อม (TSB) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับวิธีการคิดค่าโดยสาร อย่างไรก็ตาม BYD ยังคงมีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) ประมาณ 966 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน NCR ที่ 124% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด

สรุป:

อนาคตของ BYD ขึ้นอยู่กับการจัดการความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมขนส่งสาธารณะ (ผ่านการลงทุนใน TSB) การเติบโตของรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์และการบริหารจัดการความมั่งคั่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนผลประกอบการของบริษัท