บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
THANI เผย Q2/68: ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัว บริหาร NPL เด่น พร้อมลุยตลาดรถ EV Taxi!
P/E 11.34 YIELD 4.02 ราคา 1.74 (0.00%)
THANI เผย Q2/68: ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัว บริหาร NPL เด่น พร้อมลุยตลาดรถ EV Taxi!
-
**ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**
ผลประกอบการในไตรมาส 2/2568 ไม่แตกต่างจากไตรมาส 1 มากนัก ตลาดรถบรรทุกโดยรวมยังคงซบเซา ยอดขายรถบรรทุกใหม่ลดลงอย่างมากจาก 30,000 คันในปีที่แล้ว เหลือเพียง 16,000 คันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งถือเป็น New Low ในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม ตลาดรถบรรทุกมือสองกลับมีสัญญาณที่ดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี มีการซื้อขายที่คล่องตัวขึ้นและราคามีแนวโน้มดีขึ้น
ด้านรถ Luxury Car รถใหม่ยังขายไม่ดี แต่รถ Used Car มีการซื้อขายค่อนข้างคล่องตัวเนื่องจากราคาเริ่มลดลง
รถแท็กซี่เป็นตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากรถแท็กซี่จำนวนมาก (ประมาณ 20,000 คันทั่วประเทศ) หมดอายุและมีการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นตามนโยบายของสนามบินต่างๆ ทำให้ THANI กลับมาให้ความสนใจในตลาดนี้อีกครั้ง
Big Bike ยังคงทำตลาดได้ปกติ ตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ภาพรวมเศรษฐกิจมีทั้งปัจจัยบวกและลบ ภาคการส่งออกดีขึ้นจากผลไม้ เช่น ทุเรียนและมังคุด ภาคการก่อสร้างมีสภาพคล่องดีขึ้นจากงบประมาณภาครัฐ ภาคเกษตรคาดว่าผลผลิตจะดีขึ้นแม้ราคาตกต่ำ ภาคพลังงานทรงตัว การอุปโภคบริโภคยังไม่ดีนัก แต่มีแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ยังไม่แย่มาก Border Trade เริ่มมีปัญหาโดยเฉพาะกับกัมพูชา
ด้านตัวเลขทางการเงิน ครึ่งปีแรกของปี 2568, New Drawdown ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 15,900 - 16,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่ 16,500 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 41,000 ล้านบาท NPL Ratio อยู่ที่ 2.54%, Credit Cost อยู่ที่ 1.86%, และ D/E Ratio อยู่ที่ 2.3
-
**โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**
ตลาดรถ EV Taxi ที่กำลังเติบโตเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของรถแท็กซี่เก่า
ตลาดรถ Used Car ทั้งรถบรรทุกและ Luxury Car ที่มีความต้องการสูง
ภาคการส่งออกที่เติบโตจากสินค้าเกษตร
ภาคการก่อสร้างที่มีสภาพคล่องดีขึ้น
บริษัทมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใน 6 เดือนหลังอีกประมาณ 7,000 - 8,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายใหม่ที่ 1,400 - 1,500 ล้านบาทต่อเดือน
-
**ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**
เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังคงมีความไม่แน่นอน
ตลาดรถบรรทุกใหม่ที่ยังคงซบเซา
ปัญหา Border Trade โดยเฉพาะกับกัมพูชา
การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดสินเชื่อ
ความผันผวนของตลาดและเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อ NPL
-
**วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**
เน้นการบริหารจัดการ NPL อย่างเข้มงวด
ควบคุม Credit Cost ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
บริหารจัดการสภาพคล่องของบริษัทอย่างระมัดระวัง
ติดตามและประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดอย่างใกล้ชิด
ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ
ปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์
-
**แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**
บริษัทคาดว่าตลาดรถบรรทุกจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
บริษัทจะเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวังและรักษาความมั่นคงทางการเงิน
บริษัทจะให้ความสำคัญกับตลาดรถ EV Taxi และรถ Used Car
บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาพอร์ตสินเชื่อไม่ให้ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท
-
**ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):**
-
**[00:26:29] การกลับรายการด้อยค่า (Impairment Loss Reversal):**
- **คำถาม:** จะมีการ Move Impairment Loss Reversal อีกครั้งในอนาคตหรือไม่ คาดว่าจะเท่ากับไตรมาส 2 ที่ผ่านมาหรือไม่
- **คำตอบ:** การบุ๊ก Impairment Loss ของรถยึดทำทุกเดือนอยู่แล้ว ไตรมาส 2 มีการขายรถยึดออกไปเยอะจริง ๆ ทำให้มี Performance ที่ดีจากการขายจริง ไม่ได้มีการ Revers สำรองเพิ่มเติมมาใช้ ถ้าไตรมาส 3 สต็อกรถยึดลดลงไปอีกมาก ก็อาจจะเห็นการ Revers มากกว่านี้ แต่ถ้ามีการยึดรถเข้ามาเพิ่ม ก็จะมีการตั้งสำรองเพิ่ม การตั้งด้อยค่ารถยึดเป็นการพลันยอด ขึ้นอยู่กับยอด Gross ของมูลค่าสต็อกรถยึดที่เข้ามาในแต่ละเดือน ซึ่งต้องตั้งด้อยค่าและทำทุกเดือนอยู่แล้ว ไตรมาส 2 เป็น Big Amount เพราะทีมงานหลังบ้านทำได้ดีจริง ๆ
-
**[00:28:23] แนวโน้ม Credit Cost:**
- **คำถาม:** แนวโน้ม Credit Cost เป็นอย่างไร
- **คำตอบ:** ครึ่งปีหลังยังคงใกล้ชิดในการบริหารจัดการการติดตามทวงถามหนี้ หรือเข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหา คาดว่า Credit Cost ปิดจบสิ้นปีอยู่ที่ประมาณ 2.15% และคิดว่าน่าจะไม่เกินนี้ พยายามบริหารจัดการให้ได้ในสถานการณ์ที่ยังมีความเปราะบางอยู่ และคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าอยู่ และเข้าไปช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
-
**[00:29:23] แนวโน้ม Cost to Income Ratio:**
- **คำถาม:** แนวโน้ม Cost to Income Ratio
- **คำตอบ:** ค่าใช้จ่ายที่เป็น Non-Interest Expense ของ THANI ไม่ได้มีรายการอะไรที่หวือหวาเป็นพิเศษ หลัก ๆ เป็นค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายบริหารงานปกติ คาดการณ์ว่า Cost to Income Ratio ไม่ได้หลุดจาก Budget ที่วางเอาไว้ จะอยู่ประมาณ 20 กว่า ๆ
-
**[00:30:05] สถานการณ์ลูกหนี้บริษัท:**
- **คำถาม:** สถานการณ์ของลูกหนี้บริษัทดูแนวโน้มแตกต่างจากครึ่งปีแรกหรือไม่ อย่างไร
- **คำตอบ:** ดูไม่แตกต่างนัก ยังดูทรง ๆ และได้แก้ปัญหาไปซะส่วนใหญ่แล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว และไม่ได้ปล่อยสินเชื่อใหม่ จึงทำให้สินเชื่อที่ปล่อยไปในช่วงนี้ค่อนข้างจะมีคุณภาพ และคัดสรร เลือกแล้วว่าจะไม่มาก่อให้เกิดปัญหาได้อีก จึงทำให้ภาพรวม ๆ แล้วตอนนี้คิดว่าน่าจะควบคุมได้เกือบทั้งหมดแล้ว
-
**[00:31:04] ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อครึ่งปีหลัง:**
- **คำถาม:** ภาพรวมของการปล่อยสินเชื่อในครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะดีขึ้นไหมคะ
- **คำตอบ:** New Drawdown อย่างที่ได้เรียนไป คือ มีในส่วนของตัวที่ประมาณการแก้ไขในครึ่งปีหลัง เอา Actual 6 เดือนแรกมาใส่ และดูในส่วนของภาพรวมสถานการณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นชายแดนกัมพูชา หรือสถานการณ์ตัวรถใหม่ป้ายแดงที่เป็นรถบรรทุกที่ยังมีความขาดตลาดอยู่บ้าง คาดการณ์ว่าไตรมาส 4 เป็นไตรมาสที่เป็น High Season ของรถบรรทุก ขยับเป้าจากที่เรียนไปว่าทำไว้ที่ 16,500 ล้านบาท เอา Actual 6 เดือนมาใส่แล้วปรับประมาณการใหม่เป็น 16,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังจะปล่อยสินเชื่อได้มากกว่าในครึ่งปีแรก จากตัวเลขที่ทำมาจากประสบการณ์ และทำสถิติกันมาหลายอย่าง คาดการณ์ว่าครึ่งปีหลังตัว New Drawdown น่าจะดีขึ้น
-
**[00:32:20] รถแท็กซี่ที่จะหมดในปีนี้ 20,000 คัน:**
- **คำถาม:** บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด มองสถานการณ์ตรงนี้ หรือว่ามีข้อมูลอะไรที่จะแชร์ไหม
- **คำตอบ:** แท็กซี่เริ่มหมดอายุ และมีการต่ออายุกันมา มันสะสมกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และในแต่ละช่วงก็เลยมาสะสมกันในปีนี้ค่อนข้างเยอะ แต่ทางราชการก็ยังไม่ได้บังคับเต็มที่ และยังเห็นรถแท็กซี่ที่หมดอายุวิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ อาจจะเป็นเพราะว่าสภาพรถเขายังใช้ได้อยู่ เพราะมันติดโควิดมา 2-3 ปี ตอนนั้นรถวิ่งได้น้อย เขาก็ยังใช้อยู่ และทางราชการก็ยังอะลุ้มอล่วยอยู่ จึงเป็นเฉพาะบางราย บางส่วน บางกลุ่มเท่านั้นที่ยอมเปลี่ยนแท็กซี่เพราะว่าสภาพมันไปไม่ได้แล้ว แต่ยืนยันว่ามันหมดอายุแล้วที่วิ่งอยู่ส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้เริ่มเห็นรถแท็กซี่ที่เป็นรถไฟฟ้ามากขึ้น และเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่วนรุ่นเก่า ๆ ที่เห็นเป็นรถน้ำมันหรือรถแก๊สรถอะไรต่าง ๆ มันออกน้อยลงจริง ๆ ตอนนี้มีพอร์ตแท็กซี่ที่เริ่มบุ๊กมาตั้งแต่ต้นปีนี้ น่าจะประมาณ 3-400 คัน และคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้ก็ยังมีที่รอบุ๊กอยู่อีกประมาณ 500 ขึ้น จึงน่าจะมีแท็กซี่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตระดับประมาณ 1,000 คัน
-
**[00:35:19] ดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง แต่ Cost of Fund ทำไมยังไม่ลด:**
- **คำถาม:** ดอกเบี้ยลง 2 ครั้งแล้ว แต่ Cost of Fund ทำไมยังไม่ลด คิดว่าตอนไหนจะลดลง
- **คำตอบ:** ดอกเบี้ยที่ลงจะได้ประโยชน์ในส่วนของ BE และ PN ซึ่งจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ทันที แต่ในปีก่อน ๆ มีการออกหุ้นกู้ หรือ Long-Term Loan ในอัตราดอกเบี้ยเก่า ซึ่งยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในปีก่อนอยู่ ต่อให้ กนง. ประกาศลดลง ดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ออกไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนก็ไม่ได้ลดลงไปด้วย จึงยังคงเป็นเรทเดิมอยู่ ซึ่งหุ้นกู้ของ THANI เวลาออก จะมีออกทั้ง 3 ปี 4 ปี และ 5 ปี 7 ปีก็เคยออกแล้วด้วย จึงเป็นที่มาว่าดอกเบี้ยที่ประกาศลง จะไปได้อานิสงส์ในส่วนของ Short-Term Loan ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น BE หรือ PN จะทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายตรงนั้นลดลง แต่ไม่ได้ช่วยในส่วนของตัวหุ้นกู้ระยะยาว Long-Term Loan ระยะยาวต่าง ๆ ที่ได้มีการออกไปก่อนหน้านี้
- **[00:37:27] ECL ทำไมยังไม่ลง เมื่อคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นแล้ว:**
- **คำถาม:** ECL ทำไมยังไม่ลง เมื่อคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นแล้ว
- **คำตอบ:** ECL มาจากการตั้งสำรองในพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ สเตท 1 2 3 และจากการตั้งสำรองในส่วนของลูกหนี้ที่ขาดทุนจากการขายรถยึด ถึงแม้ว่า NPL ลดลงแล้ว สเตท 3 ลดลงแล้ว NPL เหลือประมาณ 1,089 ล้าน ในไตรมาสนี้ แต่ยังมีส่วนของลูกหนี้กฎหมายที่จะต้องตั้งสำรองเพิ่มเติมในส่วนของการเตรียมการไปฟ้องร้อง ทำให้ภาพรวมของ ECL สเตท 1 2 3 ลดลง แต่ในภาพรวมของลูกหนี้กฎหมายยังเพิ่มขึ้น ซึ่งลูกหนี้กฎหมายนี้ เราบริหารจัดการในส่วนของตัวที่เป็นลูกหนี้กฎหมาย 1 พอร์ตต่างหาก ไม่ได้รวมคำนวณเป็น NPL ตามหน้า งบตัวนี้ ลูกหนี้เช่าซื้อ NPL ลงจริง แต่ ECL ที่เพิ่ม คือ เพิ่มเติมในส่วนของตัวลูกหนี้กฎหมาย ที่หลุดออกจากเช่าซื้อแล้วมีการฟ้องร้อง หรือหลุดออกจากรถยึดแล้วไปตั้งสำรองเพิ่มในส่วนที่ขาดทุน เพราะจะต้องไปฟ้องร้องต่อ
- **[00:39:39] สถานการณ์ชายแดน พม่า-กัมพูชา:**
- **คำถาม:** สถานการณ์ชายแดนทั้งทางพม่าและกัมพูชาในปัจจุบัน คาดว่ามีผลกระทบกับลูกหนี้และอุตสาหกรรมในขณะนี้หรือไม่
- **คำตอบ:** จับตาดูที่กัมพูชา มีลูกหนี้อยู่หลักประมาณ 300 กว่าราย ที่ทำการค้าหรือขนส่งผ่านชายแดน ตอนนี้เริ่มสำรวจลูกค้าแล้ว มีลูกค้าติดต่อเข้ามาเพียง 2-3 รายเป็นรายย่อย ส่วนรายกลางและรายบนยังไม่เห็นติดต่อเข้ามา หรือโทรไปสำรวจเขาก็ยังคิดว่ายังน่าจะบริหารจัดการได้ ส่วนชายแดนพม่าเพิ่งเกิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็เริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามาเหมือนกัน ก็เป็นรายย่อยเหมือนกัน ซึ่งจำนวนยังไม่เยอะ ทั้งกัมพูชาและพม่าแล้วรวมกันยังอยู่ในหลักประมาณ 10 กว่ารายเท่านั้นเอง ที่ติดต่อเข้ามาและขอความช่วยเหลือ ตอนนี้ก็ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือหลายอย่าง ที่เข้าไปช่วยเหลือ ขอให้พิสูจน์ได้ว่าเป็นลูกค้าจริง เราเข้าไปช่วยเหลือโดยตรงอยู่แล้ว แต่ยังน้อยอยู่มากถ้าเทียบแล้ว
- **[00:41:12] NPL จะแย่ลงหรือไม่:**
- **คำถาม:** NPL มีแนวโน้มจะแย่ลงหรือไม่ จากสถานการณ์ทางชายแดนพม่าและกัมพูชาในปัจจุบัน
- **คำตอบ:** อันนี้ก็พูดยาก ตอนนี้ Q2 นี้ทำ NPL อยู่ในระดับต่ำมาก ก็ยังคิดว่าถ้าเราสามารถรักษาตัว NPL ให้ต่ำกว่าระดับ 3% ได้ ก็ถือว่าเป็นเป้าหมายของเรา
- **[00:41:40] เป้าหมายการปล่อยกู้ครึ่งปีหลัง:**
- **คำถาม:** เป้าหมายการปล่อยกู้ในครึ่งปีหลังจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ทั้งปีหรือไม่
- **คำตอบ:** ตอนนี้ก็เป็นความท้าทายมาก ๆ ตอนนี้ปล่อยไปแล้วในช่วง 3 เดือน 6 เดือน ก็ต้องสำรวจว่าปล่อยไปแล้วคุณภาพของสินเชื่อที่ปล่อยไปมันดีหรือไม่ดี หรือขนาดไหน หรือลูกค้ามีปัญหาขนาดไหน ถ้าจะไปลดเกณฑ์ หรือปล่อยสินเชื่อให้ได้มากขึ้นก็ต้องไปสู้ตลาด เกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อก็จะต้อง Flexible มากขึ้น เพื่อทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น มันก็อาจจะมีปัญหาตัว NPL ตามมาหรือเปล่า ก็ต้องปล่อยไปเฝ้าดูไปในช่วงนี้ ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาใน 6 เดือนหลัง จากเดือนละ 1,200 มาเป็น 1,400 - 1,500 ก็เพิ่มขึ้นมาไม่เยอะ เดือนละ 200 ล้าน คิดว่าน่าจะทำได้ แต่ก็ต้องมาดูว่าสถานการณ์ตลาดเป็นยังไงด้วย ทำแล้วมันทำให้ตัว NPL หรือตัวอะไรต่าง ๆ มันมีปัญหาตามมาหรือเปล่า ก็ต้องลองดู เพราะว่าตอนนี้ตลาดมันค่อนข้างที่จะอ่อนไหวมาก กับทุก ๆ อย่าง ตอนนี้รายย่อยยังมีปัญหาอยู่ในพอร์ตของเรา ก็ดูแลบริหารจัดการอยู่ ซึ่งตัวเลขมันยังไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ NPL ใน Quarter 2 ลงมาต่ำก็จริง แต่ตัวพอร์ตยังค่อนข้างจะอ่อนไหวกับตัว NPL ยังเฝ้าดูเป็นอยู่ และการสู้ตลาดก็จะเริ่มออกไปสู้ตลาด แต่คงต้องสู้แบบระมัดระวัง คงไม่ได้กลับไปปล่อยสินเชื่อเท่าเดิมเหมือนเมื่อก่อนที่ระดับประมาณเดือนละ 2,000 ล้าน
- **[00:44:54] การตั้งสำรองเพิ่มไตรมาสสอง:**
- **คำถาม:** เห็นมีการตั้งสำรองเพิ่มในไตรมาส 2 ครึ่งปีหลังจะสถานการณ์เป็นอย่างไร
- **คำตอบ:** ตัวที่ตั้งสำรอง ตัว ECL ที่มันเพิ่มขึ้น จำนวนรถยึดที่ยึดมา แล้วขายทอดตลาดไป รถยึดเวลาขายทอดตลาดไป ก็รับรู้ขาดทุนเข้ามาเยอะ การ Revers ตรงนั้นมามันยังไม่ Cover ตัวขาดทุนเลยด้วยซ้ำ
- **[00:45:44] งบการเงิน:**
- **คำถาม:** งบการเงินพอร์ตมีการ Run Down มาพอสมควร ไม่ทราบว่ากระบวนการนี้จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่
- **คำตอบ:** ตอนนี้พยายามมี Target ใหม่ คือ พยายามจะไม่ให้ลดไปต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท
- **[00:46:04] หุ้นกู้:**
- **คำถาม:** หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดปลายปี บริษัทมีแผนจัดการอย่างไร
- **คำตอบ:** ตอนนี้เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง บริษัทมี Cash Flow เหลือในส่วนของที่จะบริหารจัดการตัว Funding ภายในบริษัท ก็มีการจัดการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว หุ้นกู้อาจจะไม่มีความจำเป็น ตอนนี้ Cash Flow ของบริษัทยังสามารถ Cover ได้
- **[00:46:41] การกลับรายการสำรองทรัพย์สินรอการขาย:**
- **คำถาม:** ช่วงที่เหลือของปี จะมีการกลับรายการสำรองทรัพย์สินรอการขายอีกหรือไม่
- **คำตอบ:** คือมันกลับอยู่แล้วในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเป็นตัว Revers อยู่ ไตรมาส 3 กับไตรมาส 4 ถ้าสถานการณ์สต็อกรถยึดยังคงลดลงไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นตัวเลขที่ Revers แบบนี้ อาจจะไตรมาสหน้าอาจจะมีการ Revers เพิ่ม หรืออาจจะตัว Revers หายไปจาก 120 อาจจะเหลือ Revers สัก 80 ก็ได้ ถ้ามีการตั้งเพิ่มตัว Revers มันก็จะลดลง มันอยู่ที่ว่าในไตรมาส 3 นี้ ปริมาณสต็อกรถยึดที่เข้ามามากน้อยแค่ไหน และบริษัทสามารถขายออกไปได้มากแค่ไหน มันเป็นการคำนวณจากตัวสต็อกที่มี ณ สิ้นเดือนนั้น ๆ
- **[00:47:53] บริษัทอื่นๆ:**
- **คำถาม:** บริษัทอื่น ๆ สามารถเติบโต ขยายสินเชื่อได้โดยเฉพาะรถบรรทุกในครึ่งปีหลัง ตอนนี้ความต้องการสินเชื่อยังมีมากแค่ไหน ที่ทางบริษัท พยายามคัดกรองลูกค้า และ Reject Rate ลูกค้าปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่
- **คำตอบ:** ตลาดรถบรรทุกที่ท่านพูดนั้นของเราเป็น High Purchase กับการจำนำทะเบียน อันนี้ต้องแยกกัน เราทำจำนำทะเบียนเหมือนกัน แต่เราทำค่อนข้างน้อย ตัวจำนำทะเบียน ผมว่าตลาดอาจจะยังมีความเติบโตอยู่ ในส่วนที่เป็นจำนำทะเบียนรถบรรทุก ค่อนข้างเป็นจำนำทะเบียนรถบรรทุกเราทำอยู่ แต่เราทำเฉพาะกับลูกค้าเก่าของเราเท่านั้น ซึ่งพอร์ตเราก็น้อยมาก ทำไม่ประมาณสัก 5-600 ล้าน ตัวนั้นยังทำอยู่ ส่วนบริษัทอื่นที่การเติบโตที่เขาพูดนั้น คือ เติบโตในลักษณะการจำนำทะเบียน ไม่ใช่ไม่ใช่เช่าซื้อเหมือนอย่างที่ราชธานีทำอยู่
- **[00:50:06] แบงค์ชาติลดดอกเบี้ย:**
- **คำถาม:** แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย มีผลอย่างไรกับบริษัท หรือภาพรวมในอุตสาหกรรมบ้าง
- **คำตอบ:** ก็จะมีผลกดดันในการปล่อยสินเชื่อ เพราะพอประกาศลดดอกเบี้ยลูกค้าเริ่มต่อรองดอกเบี้ยมากขึ้น ไม่เหมือนตอนช่วง 6 เดือนแรก ตอนนี้เห็นว่าบริษัทรายใหญ่ ๆ ก็จะเริ่มขอดอกเบี้ยให้ลดลง เพราะแบงก์ชาติประกาศลดดอกเบี้ยไปแล้ว ตอนนี้พยายามตรึงดอกเบี้ยเอาไว้ในระดับเดิม ไม่ได้ไปลดดอกเบี้ย ดอกเบี้ยปล่อย
- **[00:50:58] ขายรถยึดไปแล้ว:**
- **คำถาม:** ขายรถยึดไปแล้วได้เงินสดมา ทำไมจะต้องตั้ง ECL อีก
- **คำตอบ:** ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อถือเป็นสินทรัพย์ตามหน้างบการเงิน และต้องตั้งสำรองตามมาตรฐาน TFRS9 บริษัทเมื่อมีลูกหนี้เช่าซื้อ Day 1 ที่เรายึดรถลูกค้ามา ล้างลูกหนี้เช่าซื้อออกแล้วก็ตั้งเป็นทรัพย์ยึด คือ รถยึด สมมุติว่ามีลูกหนี้รายนี้เอามาตั้งเป็นรถยึด 1 ล้านบาท เกิดว่าวันนึงขายทอดตลาดประมูลแล้วรถคันนี้ขายได้ 600,000 บาท ได้เงินสดกลับมา 600,000 บาท เหลือทรัพย์สินรอการขายอีก 400,000 ที่ขายไม่ได้ เพราะว่าทรัพย์มัน 1 ล้าน การที่ขายทรัพย์ไปแล้ว ต้องล้างทรัพย์ออกจากพอร์ต เพราะฉะนั้น การล้างทรัพย์ออก ต้องล้างทั้งจำนวล คือ 1 ล้านบาท บันทึกเงินสดเข้าระบบไป 600,000 อีก 400,000 ทำยังไง ก็ต้องไปตั้งเป็นลูกหนี้ขาดทุนจากการขายรถยึด ลูกหนี้ตัวนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ตามหน้างบการเงิน ต้องตั้งสำรองตามมาตรฐาน TFRS9 เป็นลูกหนี้ที่เรียกว่าอยู่กระบวนการสุดท้ายแล้ว จบการขายแล้ว ขายได้แค่ 600,000 เพราะฉะนั้น 400,000 ตามมาตรฐานบัญชีถือว่าเป็นลูกหนี้ขาดทุนจากการขายรถยึด เพราะฉะนั้น สำรองที่โอกาสที่จะได้เงินจากตรงนี้ ทางมาตรฐานบัญชีก็มองว่า แทบจะต้องมีการทำกระบวนการมากมาย เพราะฉะนั้นสำรองตรงนี้มองว่าต้องตั้ง 100% ก็เลยเป็นที่มาว่าทำไมขายรถยึดแล้วรถยึด 1 ล้าน ขายได้ 600,000 อีก 400,000 ถ้าไม่ตั้งสำรองมันตัดมันไม่สามารถตัดเป็นค่าใช้จ่ายได้ ต้องมีกระบวนการถัดไปในการทำ เพราะฉะนั้น ตั้งสำรองเป็นลูกหนี้ก้อนใหม่ไว้ก่อน ลูกหนี้ขาดทุนจากการขายรถยึด 400,000 มีสำรองไว้ 400,000 ในอนาคตถ้าฟ้องได้เท่าไหร่ เรา เราได้เงินมาแล้วค่อยไป Revers สำรองตัวนี้ออก มันก็เลยเป็นที่มาว่า เนื่องจากว่ามันเป็นสินทรัพย์ตามหน้างบการเงิน เราก็ต้องมีกระบวนการในการที่จะไหล เป็นลำดับถัดไปว่าลูกหนี้รายนี้จะไปจบตรงไหน ส่วนใหญ่แล้วท้ายสุดก็จะไปอยู่ที่ ตัวขาดทุนจากการขายรถยึด และบริษัทก็จะมีการทำ การในส่วนของตัวกระบวนการกฎหมายต่อไป
- **[00:54:16] ปีหน้ามีโอกาสกลับไปปล่อยที่เดือนละ 2,000 ล้านไหม:**
- **คำถาม:** ปีหน้ามีโอกาสกลับไปปล่อยที่เดือนละ 2,000 ล้านไหม
- **คำตอบ:** ยังมองไม่เห็นภาพ ตอนนี้ก็ใช้วิธีการ ก็มีการ บริหาร มีการประชุมร่วมกันตลอดเวลา บริหารจัดการทุก ๆ Quarter เดือน 7 ครึ่งเดือนปล่อยได้เท่าไหร่ ถึงเดือน 8 เดือน 7 นี้ยังปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าที่วางไว้ แต่เดือน 8 นี้ดู 2-3 อาทิตย์มานี้รู้สึก ตลาดดูผิดปกติ ดูเงียบลงไป ทั้ง ทั้งรถใหม่ทั้งรถเก่า โดยเฉพาะรถบรรทุก อันนี้ก็ยังกังวลอยู่ว่าอยู่ดี ๆ ตลาดเงียบไป ก็ต้องรอดูว่า ว่า ว่า เราปล่อยได้เท่าไหร่จริง ๆ แต่เดือน 7 ก็ทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
-
**[00:26:29] การกลับรายการด้อยค่า (Impairment Loss Reversal):**
โดยสรุปแล้ว ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่บริษัทก็สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ THANI ยังมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในตลาดรถ EV Taxi และมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาความมั่นคงของบริษัท