บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday TTA : ทิศทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืน ไตรมาส 2 ปี 2568
P/E 3.53 YIELD 4.93 ราคา 4.50 (0.00%)
สรุป Oppday TTA : ทิศทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืน ไตรมาส 2 ปี 2568
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 บริษัท ทริสเซ่นไทย เอเยนซี จำกัด (มหาชน) เผชิญกับผลกระทบทั้งบวกและลบ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบได้แก่
- การลดลงของรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง
- การลดลงของอัตราค่าระวางเรือ
- ต้นทุนของกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่งที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีกำไรจากรายการพิเศษ เช่น การจำหน่ายเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง และการกลับรายการด้อยค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งสิ้น 155 ล้านบาท
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกิดขึ้นจริง ทำให้เกิดผลขาดทุน 200 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยรวมแล้ว TTA รายงานผลกำไรสุทธิ 90 ล้านบาทในไตรมาสนี้ แต่หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทจะมีผลกำไร 290 ล้านบาท
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในกลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ
- ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (Offshore Service) ที่มีงานให้บริการหลัก 3 ส่วน ได้แก่ งานซ่อมบำรุงใต้น้ำ การวางสายเคเบิล และงานรื้อถอนขนส่งและติดตั้ง
- ธุรกิจปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร (Agrochemicals) ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดหลัก และมีการขายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
กลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในการคว้าโอกาสเหล่านี้รวมถึงการปรับโครงสร้างพอร์ตการลงทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน ได้แก่
- ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
- ความเสี่ยงด้านการแข่งขันในตลาด
- ความเสี่ยงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ภายนอก เช่น ความขัดแย้งในต่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**บริษัทใช้หลายวิธีในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบ ได้แก่
- การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างเงินทุน และรักษาสภาพคล่อง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายในการเติบโตอย่างยั่งยืน แนวโน้มของธุรกิจในอนาคตขึ้นอยู่กับ
- การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- ความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
บริษัทมองเห็นโอกาสในการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 56:47]**คำถาม 1: ธุรกิจ Mermaid มี Backlog ที่สูง แต่ยังขาดทุนอยู่ จะกลับมาทำกำไรได้หรือไม่
คำตอบ: ในช่วงครึ่งปีแรก Mermaid เผชิญกับสถานการณ์ที่เรือต้องเข้า Drydock และเกิด Breakdown นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้เรือหยุดดำเนินการเนื่องจากสถานการณ์ใน Middle East อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก และผลการดำเนินงานจะดีขึ้น รวมถึงมีประสบการณ์ในการทำงานด้าน Decommissioning มากขึ้น
คำถาม 2: แนวโน้มธุรกิจเรือปีนี้กับปีหน้าจะเป็นอย่างไร
คำตอบ: Dry Bulk Trade Growth ในปี 2568 คาดการณ์ว่าจะโต 0.2% และปี 2569 โต 0.6% ในขณะที่ Fleet Growth ปี 2568 โต 3.1% และปี 2569 โต 3.3% Minor Bulk Trade เพิ่มขึ้น 2.1% ในปี 2568 และ 2% ในปี 2569 Supermax Fleet 4.5% เพิ่มขึ้นในปี 2568 กับ 4.3% ในปี 2569 โดยรวมแล้วปัจจัยพื้นฐานและความคาดการณ์ในเรื่องของ Demand และ Supply อยู่ในระดับเดียวกัน ทั้งนี้อัตราการขายต่อลำต่อวันของบริษัทสูงกว่าตลาดมาตลอด
คำถาม 3: ผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ มีผลกระทบอย่างไรต่ออุตสาหกรรม Dry Bulk Shipping
คำตอบ: สินค้าแห้งเทกองของสหรัฐคิดเป็นประมาณ 4% ของ Global Trade ทั้งหมด การขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอาจมีผล แต่ไม่ถือว่ามีนัยยะสำคัญ เนื่องจากการนำเข้าสินค้าเทกองของสหรัฐมีเพียง 4% ของทั้งโลก อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับจีน คาดว่าจีนก็จะมีมาตรการตอบโต้ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการขนส่งย้ายไปในระยะทางที่ไกลขึ้น เช่น การเปลี่ยนไปนำเข้าจากบราซิลแทน
คำถาม 4: การลงทุนใน Digital Asset ของบริษัทเป็นการลงทุนระยะยาวหรือไม่ และจะขายเมื่อไหร่
คำตอบ: มากกว่า 50% ของ Digital Asset ลงทุนใน Bitcoin ซึ่งในวันที่ 14 สิงหาคม Bitcoin ทำ All Time High ที่ 124,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ แนวโน้มยังเป็นบวก เช่น ความเชื่อมั่นขององค์กร การอนุมัติ ETF สำหรับ Bitcoin และนโยบายการเงินของสหรัฐ บริษัทจะดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากต้นทุนของบริษัทต่ำกว่าราคาตลาดมาก แต่จะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับเปลี่ยนแผนในการพิจารณาและการบริหารจัดการความเสี่ยงของเงินลงทุน
โดยสรุป, TTA ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน, การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ, และการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว