BEM เผยผลประกอบการ Q2/68: รถไฟฟ้าสายสีส้มยังคงเดินหน้า, นโยบาย 20 บาทเพิ่มความท้าทาย

P/E 21.51 YIELD 2.75 ราคา 5.45 (0.00%)

แน่นอนครับ นี่คือสรุปเนื้อหาจากการประชุม Oppday ของ BEM ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 ตามโครงสร้างที่คุณกำหนด:

BEM เผยผลประกอบการ Q2/68: รถไฟฟ้าสายสีส้มยังคงเดินหน้า, นโยบาย 20 บาทเพิ่มความท้าทาย

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 ธุรกิจของ BEM ได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:

  1. **ทางด่วน:** ปริมาณจราจรลดลงเล็กน้อย 1.5% เนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว, งานสะพานก่อสร้างถล่ม (ทำให้ต้องปิดด่านชั่วคราว), เศรษฐกิจชะลอตัว, และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง รายได้ค่าผ่านทางเฉลี่ยอยู่ที่ 24.8 ล้านบาทต่อวัน ลดลง 1.5% ตามปริมาณจราจรที่ลดลง
  2. **รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน:** ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 386,000 เที่ยวต่อวัน ลดลง 1.9% (วันทำงานมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยมากกว่า 450,000 เที่ยวต่อวัน) สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจชะลอตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในเดือนสิงหาคมมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และส่วนครึ่งหลังของปียังมีปัจจัยบวกจากโครงการ Dusit Central Park
  3. **รายได้รวม:** อยู่ที่ 4,371 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนจากธุรกิจทางด่วน 48%, รถไฟฟ้า 37%, ธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ 7%, และรายได้อื่นๆ 8% รายได้อื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นรายได้เงินปันผลรับจาก TTW และ CKP ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ (TTW 18.47% และ CKP 16.82%) รวมในไตรมาสนี้ 337 ล้านบาท
  4. **กำไรสุทธิ:** ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 993 ล้านบาท ลดลง 1% year-on-year และมีอัตรากำไรสุทธิ 22.8% ในขณะที่กำไรของครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 21.6%

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

BEM มองเห็นโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว:

  1. **โครงการ Dusit Central Park:** การเปิดในส่วนของศูนย์การค้า Central Park เพิ่มเติมในต้นเดือนหน้า ซึ่งตั้งอยู่ตรง MRT สถานีสีลม
  2. **การจัดงานกิจกรรมตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน:** เช่น งานหนังสือและงานกาชาด
  3. **โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม:** ซึ่งจะเพิ่มในส่วนของลูกหนี้ รฟม. และสินทรัพย์ในส่วนของสัมปทาน
  4. **รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้:** มีการเจรจาคุยกันกับทางภาครัฐ
  5. **ทางด่วน Double Deck:** ชั้นที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการนำเสนอเข้า ครม.

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

บริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:

  1. **เศรษฐกิจชะลอตัว:** ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้า
  2. **จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง:** กระทบต่อปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้า
  3. **การแข่งขัน:** จากผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะอื่นๆ
  4. **ผลกระทบจากนโยบายรัฐ:** เช่น นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่อาจส่งผลต่อรายได้ของบริษัท
  5. **การควบรวมกิจการของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ:** ทำให้รายได้ในส่วนของ Telecommunication ลดลง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

BEM มีแผนการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:

  1. **การบริหารจัดการต้นทุน:** ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
  2. **การปรับปรุงบริการ:** เพิ่มความถี่ในการเดินรถ, ลดระยะเวลารอคอย, และเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (อีก 21 ขบวน)
  3. **การเจรจากับภาครัฐ:** เพื่อให้ได้รับการชดเชยที่เหมาะสมจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท
  4. **การขยายธุรกิจ:** ไปยังโครงการใหม่ๆ เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และทางด่วน Double Deck
  5. **การใช้เทคโนโลยีในการก่อสร้าง:** เพื่อลดการพึ่งพาแรงงาน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

แนวโน้มของธุรกิจ BEM ในอนาคตขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ:

  1. **การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว:** จะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้า
  2. **การขยายตัวของโครงข่ายรถไฟฟ้า:** โครงการใหม่ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัท
  3. **การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม:** จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดต้นทุน
  4. **การสนับสนุนจากภาครัฐ:** นโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของบริษัท

BEM ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพบริการ, การขยายธุรกิจ, และการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):

[00:28:12]
  1. **โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม:**
    • **Q:** ในช่วง Q3 มีอุปสรรคที่ทำให้ล่าช้าหรือไม่ เช่น หน้าฝน และแรงงานกัมพูชากลับประเทศเป็นข้อกังวลหรือไม่ อย่างไร?
    • **A:** บริษัทไม่ได้มีแรงงานต่างชาติ และไม่ได้ทำก่อสร้างเอง โดยให้บริษัท ช.การช่าง เป็นผู้ดูแล ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แรงงานไทย และใช้เทคโนโลยีในการก่อสร้างมากกว่าใช้คน การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกก็เป็นไปตามแผน Civil Work ไป 14-15% แล้ว ส่วนระบบการเดินรถก็ไปได้ 6% ถือว่ายังไม่ได้มีเหตุอะไรที่ทำให้ล่าช้า
  2. **นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท:**
    • **Q:** มีปัจจัยบวกหรือปัจจัยลบอย่างไรต่อบริษัทหลังประกาศใช้?
    • **A:** เป็นนโยบายที่ภาครัฐอยากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน บริษัทก็ยินดีพร้อมที่จะสนองนโยบาย แต่จะต้องมีการดูแลไม่ให้เกิดกระทบกับบริษัทเช่นกัน และต้องไม่เกิดผลกระทบกับการ subsidize ค่าใช้จ่ายคืนกลับมา
    • **Q:** บริษัทประมาณการตัวเลขว่าผู้ลงทะเบียนในโครงการนี้จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้โดยสารที่มีสิทธิ์ทั้งหมด และประเมินว่าตัว Ridership จะมี จะเพิ่มขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ทั้ง Weekday แล้วก็ Weekend?
    • **A:** เข้าใจว่าคงลงทะเบียนเยอะ ผู้ใช้บริการเดิมน่าจะลงเยอะ ซึ่งปกติเรามีอยู่ประมาณ 4-5 แสนเที่ยวต่อวัน น่าจะ ผู้ที่ใช้บริการเดิมอยู่แล้วก็คงลงทะเบียนทั้งหมด และผู้ที่อยู่ในอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ทำงานในกรุงเทพฯก็น่าจะสนใจลงทะเบียนทั้งหมด
    • **A:** อาจจะมีการเปลี่ยนโหมด จากบางท่านใช้ รถประจำทางหรือรถตู้ หรืออะไรแบบนี้ก็อาจจะมาเปลี่ยนเพราะว่า ด้วย 20 บาทราคา มันไม่ได้ต่างกับ รถตู้หรือรถประจำทางเท่าไหร่ ก็อาจจะมีความคล่องตัว มีความรวดเร็วหน่อย ครับ ก็เป็นไปได้ว่าน่าจะมีผู้โดยสารมากขึ้นกว่าเดิม จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์เนี่ย ต้องดูตัวเลขทางภาครัฐ เองออกมา ให้ความเห็นไว้ว่าน่าจะประมาณ 20-30% นะครับ อันนี้ตัวเลขจากทางภาครัฐเป็นผู้ให้ไว้ นะครับ เราก็ลองดูว่า จะเป็นไปตามนั้นไหม
    • **Q:** ระหว่าง BTO กับ BOT รูปแบบใดจะได้รับผลกระทบ จากนโยบายนี้มากกว่ากัน เข้าใจว่า แบบ BOT ควรจะได้รับชดเชยจากรัฐ ใช่หรือไม่?
    • **A:** BTO คือ Build Transfer Operate แต่ BOT ก็คือ Build Operate Transfer ซึ่งจริงๆมันไม่ต่างกันหรอก มันต่างกันที่ว่า คุณ Transfer Asset ไปให้รัฐเมื่อไหร่ ถ้า ถ้ามี BTO ก็แปลว่า วันที่คุณเปิดบริกาศ คุณก็จะต้อง Asset ทั้งหลาย คุณก็จะกลายเป็นเป็นของรัฐ บริษัทจะไม่มี Asset ติด บริษัทจะมี Asset ก็คือสิทธิ์ในการบริหารจัดการตลอดสัมปทาน เหมือนกัน BOT ก็จะต่างกันนิดหน่อยตรงที่ว่า เรา เป็น มี Asset อยู่ก่อน เมื่อหมดสัมปทานแล้วเราก็ Transfer Asset เหล่านั้นคืนให้ภาครัฐ
  3. **Business Expansion:**
    • **Q:** BEM จะมี Business Expansion อะไรบ้างในอนาคต?
    • **A:** น่าจะเป็นไปตามดูตอนนี้ สิ่งที่เรามีอยู่ ก็คือสายสีส้ม มา กับก็ได้ อีก 30 กว่าปี 30 ปีนะครับ แล้วก็ในอนาคตน่าจะเป็นเรื่องของ รถไฟสายสีม่วงใต้ นะครับก็น่าจะมีการเจรจาคุยกันกับทางภาครัฐซึ่งตอนนี้ภาคหนึ่งเอ่อภาคภาคเอ่อส่วนแรกเนี่ยในในในส่วนเหนือเนี่ยเราได้ดำเนินการอยู่แล้วครับงั้นสุดท้ายก็น่าจะเป็นสิ่งที่เราคงต้องดำเนินการต่อไปนะครับเพื่อ ให้การเอ่อโอเปอเรตรถไฟเนี่ยสายสีม่วงเนี่ยให้มัน มันเป็นทรูเอ่อไลน์ก็คือสายเดี่ยววิ่งไม่โดยโดยที่ ไม่ไม่เอ่อไม่ติดขัดนะครับให้มันเดิน เป็นการเป็นอย่างราบรื่นครับ

หัวข้อคำถามและคำตอบในช่วง Q&A:

  1. **โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม**
  2. **นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท**
  3. **แผนการขยายธุรกิจในอนาคต**

หากมีคำถามเพิ่มเติม ทางบริษัทยินดีตอบคำถามในโอกาสต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ

โพสต์ล่าสุด