สรุปงบล่าสุด PTG

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ปี 2567 (อัปเดตล่าสุด)
**ผลประกอบการและพัฒนาการสำคัญ**
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) รายงานผลประกอบการปี 2567 ที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 1,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากปีก่อนหน้า แรงขับเคลื่อนหลักมาจากการเติบโตของรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 13.6% แตะ 225,813 ล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมัน (Oil) ที่ขยายตัว 12.3% ตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่เติบโตถึง 12.5% คิดเป็นปริมาณรวม 6,708 ล้านลิตร โดยมาจากยอดขายผ่านสถานีบริการ PT ที่ 6,548 ล้านลิตร ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การเติบโตนี้ทำให้ PTG สามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% นอกจากนี้ ธุรกิจ Non-Oil ของ PTG ก็มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 82.6% เป็น 2,266 ล้านบาท จากการขยายสาขาอย่างรวดเร็วและกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันมีจำนวนสาขารวม 1,347 สาขา เพิ่มขึ้น 665 สาขา นับตั้งแต่ต้นปี 2567 นอกจากนี้ PTG ยังมีการลงทุนที่สำคัญ เช่น การเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด (ธุรกิจสินเชื่อ) และ บริษัท ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด (ธุรกิจบริหารจัดการขยะ) และล่าสุดได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทไทยไพบูลย์ เป็น 31.56% เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ PTG ยังให้การสนับสนุนการแข่งขันโมโตจีพี (MotoGP) ในประเทศไทยภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” เพื่อขยายแบรนด์ไปยังฐานลูกค้า 800 ล้านคนทั่วโลก
**ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567:**
* รายได้จากการขายและการให้บริการ: 58,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% YoY และ 7.9% QoQ
* กำไรขั้นต้น: 3,809 ล้านบาท เติบโต 5.3% YoY และ 7.8% QoQ
* กำไรสุทธิ: 236 ล้านบาท ลดลง 56.4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 219.3% QoQ
**ผลการดำเนินงานปี 2567:**
* รายได้จากการขายและการให้บริการ: 225,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% YoY
* กำไรขั้นต้น: 16,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.3% YoY
* กำไรสุทธิ: 1,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% YoY
**ปัจจัยที่มีผลต่อกำไรสุทธิ:**
* **(+)** การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า (ไพศาล แคปปิตอล, ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์, PPP Green Complex และ อาม่า มารีน)
* **(+)** การเติบโตของกำไรก่อนดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Operating EBITDA) จากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจ Non-Oil ที่ขยายตัว โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทย
* **(-)** การลดลงของกำไรขั้นต้นต่อลิตรในธุรกิจ Oil จากการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันที่ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น
* **(-)** การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจากการขยายธุรกิจ
**ฐานะทางการเงิน (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567):**
* สินทรัพย์รวม: 51,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% จากสิ้นปีที่แล้ว
* เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด: 2,212 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปีที่แล้ว
**แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต**
PTG มีแผนที่จะขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ต่างๆ เช่น กาแฟพันธุ์ไทย และ Subway (ซึ่ง PTG ได้สิทธิ์บริหารในประเทศไทย) โดยกาแฟพันธุ์ไทยมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาและวางรากฐานธุรกิจแฟรนไชส์ให้แข็งแกร่ง นอกจากนี้ PTG ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง โดยเชื่อมโยงธุรกิจต่างๆ เข้าด้วยกัน และใช้ประโยชน์จากฐานสมาชิกบัตร PT Max Card ที่มีอยู่ นอกจากนี้ บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTG กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจก๊าซ LPG
**โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน**
การลงทุนใน PTG ในปัจจุบัน อาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจ เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในธุรกิจ Non-Oil ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าธุรกิจน้ำมัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วย เช่น ความผันผวนของราคาน้ำมัน ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมก็อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ PTG ได้เช่นกัน
**วิเคราะห์เพิ่มเติม**
รายได้รวมของ PTG เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิมีความผันผวนมากกว่า อัตรากำไรขั้นต้นของ PTG อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ D/E Ratio ของ PTG ค่อนข้างสูง ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไรของ PTG ได้แก่ ราคาน้ำมัน ปริมาณการขายน้ำมัน และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน
**ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:** (ข้อมูลเดิม)
**โอกาส:** (ข้อมูลเดิม)
**ความเสี่ยง:** (ข้อมูลเดิม)
**ข้อมูลเพิ่มเติม:** PTG มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 (ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น)
หวังว่าบทวิเคราะห์นี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุนของคุณ
(7.88%)
(18.52%)
(7.82%)
(5.28%)
(0.15%)
(11.23%)
(1,025.82%)
(247.51%)
(225.39%)
(57.37%)
(65.06%)
(78.99%)