สรุปงบล่าสุด PTG
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 211.3% YoYแต่ ลดลง 84.2%QoQ เกิดจาก ค่าการตลาดใน Q3/67 ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงปริมาณการขายน้ำมันที่ลดลงจากปัจจัยฤดูกาล และ ยังคงต้องติดตามต่อจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
สำหรับธุรกิจ Non-Oil มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 25%YoY และ 4.1%QoQ ปัจจุบันสัดส่วน Oil และ Non-Oil คือ 92:7.9 ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจพันธุ์ไทย และ อื่นๆ โดยพันธ์ไทย มีรายได้เพิ่มขึ้น 77.6%YoY และ 10.7%QoQ จากการขยายสาขาต่อนเนื่อง ปัจจุบันมีสาขารวม 1,126 สาขาเพิ่มขึ้น 48.9%YoY และ 9.5%QoQ มี SSSG อยู่ที่ 20-30% จากความสำเร็จของบัตร PT Max Card สัดส่วนกำไรขั้นต้นธุรกิจนี้อยู่ที่ 26.1% ในอนาคตบริษัทวางเป้าไว้ให้ได้ 40%
เป้าหมายปี 2567 วางไว้คงเดิมคือ กาแฟพันธุ์ไทย 400 สาขา สิ้นปีไปจบที่ 1,282 สาขา งบลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท ให้เป้าเติบโต Non-Oil ไม่รวม LPG ที่ 40-50%YoY
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้เปิดตัวแคมเปญ “ไทยริกาโน” สำหรับธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย โดยใช้เมล็ดกาแฟอาราบิกา 100% จากแหล่งปลูกคุณภาพในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมดื่มกาแฟรสชาติเฉพาะตัวและมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงขยายสาขาธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการขยายสาขาสถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT และศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs ผลการดำเนินงานทางการเงินไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 54,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา แต่ลดลง 5.89% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางเติบโต 12.1% YoY และ กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 15.8% YoY แต่ลดลง 9.1% QoQ ในขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.3% YoY แต่ลดลง 84.2% QoQ
แผนธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคตยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย สถานีอัดประจุไฟฟ้า และศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางในระดับ 10-15% และยังคงมุ่งมั่นในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทยและธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ
จากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา และอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัทฯ มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 11.63 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่ 37.11 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.66 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่ 7.46 แสดงถึงการประเมินมูลค่าที่ลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 3.93 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่ 1.38 สะท้อนถึงการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มี D/E ที่สูงกว่า 1 สะท้อนถึงการใช้เงินกู้ในการดำเนินธุรกิจ วงจรเงินสดติดลบ สะท้อนถึงการหมุนเวียนเงินสดที่ยังต้องปรับปรุง เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ แสดงถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ โอกาสการลงทุนใน PTG อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองเห็นการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil และความสามารถในการสร้างกำไรในอนาคต รวมถึงผู้ที่ต้องการรับผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสภาพเศรษฐกิจอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
**ภาพรวมเศรษฐกิจ**
ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3/2567 และเก้าเดือนแรกของปี 2567 มีทิศทางเดียวกัน โดยมีแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและการขยายตัวของภาคท่องเที่ยว รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่เพิ่มขึ้นหลังงบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคสินค้าคงทนลดลงตามยอดการขายรถยนต์ที่ปรับลดลง
**ปริมาณการใช้น้ำมัน**
- ปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศในไตรมาส 3/2567 ปรับตัวสูงขึ้น 1.4% YoY แต่ลดลง 4.1% QoQ
- ปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 1.9% YoY
- ปริมาณการใช้น้ำมันผ่านสถานีบริการของประเทศในไตรมาส 3/2567 ปรับตัวลดลง 0.5% YoY และ 5.1% QoQ
- ปริมาณการใช้น้ำมันผ่านสถานีบริการของประเทศในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เติบโต 0.6% YoY
**ราคาน้ำมัน**
- คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้มีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33.00 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2567 ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2567
**ผลประกอบการทางการเงิน**
- รายได้จากการขายและการให้บริการของ PTG ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 54,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.49% YoY แต่ลดลง 5.8% QoQ
- รายได้จากการขายและการให้บริการของ PTG ในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% YoY
- กำไรขั้นต้นของ PTG ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 3,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% YoY แต่ลดลง 9.1% QoQ
- กำไรขั้นต้นของ PTG ในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เท่ากับ 10,961 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% YoY
- กำไรสุทธิของ PTG ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.3% YoY แต่ลดลง 84.2% QoQ
- กำไรสุทธิของ PTG ในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เท่ากับ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.1% YoY
**ธุรกิจ Non-Oil**
- ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้จากการขายและการบริการ 573 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้น 77.6% YoY และ 10.7% QoQ
- ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมี 1,126 สาขา ในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้น 48.9% YoY และ 9.5% QoQ
- ธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจก๊าซ LPG) มี 1,878 สาขา ในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้น 38.8% YoY และ 9.1% QoQ
- รายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็น 7.9% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3/2567
- กำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-Oil เท่ากับ 923 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้น 31.1% YoY และ 2.4% QoQ
- ธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจก๊าซ LPG) มี 1,878 สาขา ในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 38.8% YoY
- รายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็น 7.5% ของรายได้ทั้งหมดในเก้าเดือนแรกของปี 2567
- กำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-Oil เท่ากับ 2,681 ล้านบาท ในเก้าเดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 34.8% YoY
**โอกาสและความเสี่ยง**
- **โอกาส:** บริษัทฯ มีโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย
- **ความเสี่ยง:**
- ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน: ธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil ของ PTG มีคู่แข่งขันจำนวนมาก
- ความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน: การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันโลกส่งผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทฯ
- ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ: ภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคและอุปสงค์
- ความเสี่ยงด้านหนี้สิน: การกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจอาจทำให้บริษัทฯ มีภาระหนี้สินมากขึ้น
**บทสรุป**
PTG มีโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายสาขาในธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสภาพเศรษฐกิจอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
(5.84%)
(14.45%)
(9.10%)
(15.76%)
(3.42%)
(1.25%)
(85.73%)
(83.67%)
(84.92%)
(261.13%)
(99.43%)
(50.72%)