สรุปงบล่าสุด PMTA

บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการหุ้น PMTA: พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปี 2567
บทความนี้สรุปและวิเคราะห์ผลประกอบการของ บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA ในปี 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูล "คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการประจำไตรมาส 4/2567 และสำหรับปี 2567" ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
PMTA มีรายได้จากการขายรวมในปี 2567 อยู่ที่ **3,721.2 ล้านบาท** เพิ่มขึ้นเล็กน้อย **1%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ **150.6 ล้านบาท** เติบโตขึ้น **15.9%** ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของกำไรสุทธิคือ อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
ในช่วงไตรมาส 4/2567 ตลาดปุ๋ยเคมีเชิงผสม NPK ในประเทศเวียดนามยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากราคาพืชผลที่ดี และความผันผวนของราคาปุ๋ยที่ลดลง ทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้นและสามารถลงทุนในปุ๋ยเคมีคุณภาพสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดส่งออกยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตในรัสเซียและจีน
* **การเปิดโรงงานใหม่/การลงทุน:** PMTA กำลังก่อสร้างคลังสินค้าขนาด 4,600 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 1/2568
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ปรับตัวดีขึ้นจาก 16.79% ในปี 2566 เป็น **20.4%** ในปี 2567 ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเติบโตขึ้น **26%** เป็น 759.1 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายปุ๋ย NPK ในประเทศ ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าการส่งออกและจำหน่ายปุ๋ยเคมีเชิงเดี่ยว
* **ต้นทุนการดำเนินงาน:** เพิ่มขึ้น 14% เนื่องจากต้นทุนค่าพนักงาน ค่าพลังงาน และค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** เพิ่มขึ้น 10%
* **EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย):** เติบโตถึง 50% จาก 202.4 ล้านบาทในปี 2566 เป็น 304.1 ล้านบาทในปี 2567
**ตารางสรุป:**
| รายการ | ปี 2566 | ปี 2567 | การเปลี่ยนแปลง |
| :------------------------------------- | :--------- | :--------- | :------------- |
| รายได้จากการขายปุ๋ย (ล้านบาท) | 3,669.3 | 3,721.2 | 1% |
| กำไรขั้นต้น (ล้านบาท) | 616.7 | 759.1 | 26% |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 16.7% | 20.4% | |
| EBITDA (ล้านบาท) | 202.4 | 304.1 | 50% |
| กำไรสุทธิ (ล้านบาท) | 58.1 | 150.6 | 159% |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 1.6% | 4.0% | |
| กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (บาท) | 0.57 | 1.49 | 159% |
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 2,608.2 ล้านบาท ลดลง 93.0 ล้านบาท
* **หนี้สินรวม:** ลดลง 123.7 ล้านบาท อยู่ที่ 719.4 ล้านบาท เนื่องจากการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และจ่ายชำระเจ้าหนี้การค้า
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** อยู่ที่ 1,688.8 ล้านบาท
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** 0.2 เท่า (คงที่จากปี 2566)
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
* **กระแสเงินสดรับสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน:** 194.6 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดจ่ายสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน:** 72.5 ล้านบาท (ส่วนใหญ่ใช้ไปในการทดแทนอุปกรณ์ และก่อสร้างคลังสินค้า)
* **กระแสเงินสดจ่ายสุทธิจากกิจกรรมทางการเงิน:** 151.6 ล้านบาท (ส่วนใหญ่มาจากการชำระคืนเงินกู้ยืม และจ่ายเงินปันผล)
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นปี:** 372.3 ล้านบาท
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:** การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดส่งออกจากผู้ผลิตในรัสเซียและจีน, ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
* **โอกาส:** การเติบโตของตลาดปุ๋ยเคมีเชิงผสม NPK ในประเทศเวียดนาม, การขยายธุรกิจการให้บริการจัดการพื้นที่โรงงาน, การเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจโลจิสติกส์ของ TTA ในเวียดนาม (ช่วยดึงดูดผู้ค้าและผู้นำเข้า)
**7. สรุป:**
PMTA สามารถสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิได้อย่างโดดเด่นในปี 2567 แม้ว่ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลกำไรคือ การปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้นจากการเน้นการขายปุ๋ย NPK ในประเทศ ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่า การจัดการต้นทุนยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังคงเพิ่มขึ้น
บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต่ำ การลงทุนในการขยายคลังสินค้าแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดส่งออก และความผันผวนของราคาวัตถุดิบ อย่างรอบคอบ
โดยรวมแล้ว PMTA มีศักยภาพในการเติบโตต่อไปได้ หากสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรในตลาดภายในประเทศ และบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(6.91%)
(15.46%)
(1.27%)
(23.56%)
(7.63%)
(9.57%)
(2.88%)
(16.93%)
(15.35%)
(13.70%)
(64.40%)
(141.69%)